ดูดไดร์เวอร์

เอาโปรแกรมดูดไดร์เวอร์มาแนะนำครับ ก็ตามชื่อเรื่องครับ “Free backup driver - โปรแกรมดูดไดร์เวอร์” ตัวนี้เอาไว้ใช้ backup driver ในเครื่องเราครับเวลาเครื่องมีปัญหาแล้วแผ่นไดร์เวอร์หายก็ใช้ตัวนี้ดูดไดร์เวอร์เอาไว้ก่อน พอจะเอามาใช้ก็ใช้โปรแกรมตัวนี้ทำการ restore driver กับมาใช้งานได้ หรือจะไม่ใช้โปรแกรมตัวนี้จะ update driver ผ่าน device manager เลยก็น่าจะได้ครับ

วิธีการใช้งานโปแกรม Double driver
1. โหลดโปรแกรม Double driver ขนาดไฟล์ 3 mb กว่าๆ
2. ติดตั้งโปรแกรมโลด คลิก next ไปเรื่อยๆ
3. เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาก็คลิกปุ่ม scan เพื่อสแกนหาไดร์เวอร์ในเครื่องเราครับ




4. จากนั้นก็คลิปปุ่ม backup เพื่อทำการ backup driver โดยทำการเลือก folder ที่จะเก็บไดร์เวอร์ก่อนนะครับ



5. ส่วนการ restore driver ก็เปิดโปรแกรมคลิกที่ปุ่ม restore ได้เลยครับ โปรแกรมจะปรากฏหน้า restore มาแล้วเราก็คลิกปุ่ม locate เพื่อเลือก folder diver ที่เราทำการ backup ไว้ตอนแรก



Double Driver Features

View installed drivers
Backup installed drivers
Restore backup drivers
Save drivers details
Print drivers details

Download Double Driver


วิธีป้องกัน Spam Mail จาก Outlook Express

มีคำแนะนำสำหรับการป้องกัน Spam Mail (เมลจากบุคคลหรือองค์กรที่เราไม่รู้จัก หรือไม่เคยติดต่อด้วย) หรือ Junk Mail หรือ เมลขยะต่างๆ ที่คุณไม่ต้องการออกได้ง่ายๆ ไม่เสียเวลาเข้าไปเปิดอ่าน หรือลบออกไป และที่สำคัญ สามารถลดปัญหาไวรัสที่มาจากอีเมลได้อีกด้วย
วิธีที่ 1 Block เมลที่ไม่ต้องการ
-คลิก copy E-mail address ที่ต้องการ Block
-จากนั้นคลิกเมนู Tools
-เลือก Message Rules
-คลิกเลือกคำสั่ง Blocked Senders List

-ในช่อง Address ให้คลิกคำสั่ง Paste หรือกด Crl+V เพื่อ copy E-mail ที่ต้องการ Block หรือไม่ได้ ให้พิมพ์ชื่อ อีเมล ตรงๆ ได้เลย เช่นกัน
-ถ้าอีเมลนี้ เป็นเมลที่ไม่ต้องการ ให้คลิกเลือกช่อง Mail message
-จากนั้นคลิก OK เพื่อยืนยัน
-คลิกปุ่ม OK อีกครั้งเพื่อปิดหน้าต่าง
วิธีที่ 2 ตั้งกฏการใช้งาน Outlook Exprsss
-คลิก copy E-mail address ที่ต้องการ Block
-จากนั้นคลิกเมนู Tools
-เลือก Message Rules
-เลือกหัวข้อ Mail
-จะได้หน้าต่าง New Mail Rule จะมีหัวข้อ 1-4 ให้กำหนด เริ่มต้นด้วยข้อ 1 เลือก "Where the Form line contains people"
-ในข้อ 2 เลือก "Delete it" ถ้าต้องการลบเมลที่ได้รับจาก Spam Mail อัตโนมัติ
-ในข้อ 3 คลิกลิงค์คำว่า "Contain People"
-ช่องบนให้ใส่ E-mail address ที่ต้องการลบอัตโนมัติ จากนั้นคลิกปุ่ม Add
-ถ้ามีมากว่า 1 อีเมล ให้พิมพ์ต่อไปเรื่อยๆ และอย่าลืมกดปุ่ม Add ด้วย
-ในช้อ 4 ตั้งชื่อกฏที่เราต้องขึ้นนี้ เช่น "Block Spam Mail" เป็นต้น
แค่นี้ เราก็สามารถ Block อีเมลต่างๆ ประเเภทเมลขยะที่ชอบส่งมาให้เราได้แล้ว รับรองคุณจะประหยัดเวลาในการทำงานได้มากขึ้น


วิธีแก้ไขปัญหา Flash Drive

บางคนอาจเรียกว่า Thumb Drive ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบน่ะครับ แต่อย่างไรก็ตาม Flash Drive หรือ Thumb Drive ก็เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการโอนย้ายข้อมูลที่สะดวมากตัวหนึ่ง ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่ใช้งาน Flash Drive แล้วปรากฏว่าวันหนึ่ง หลังจากเสียบ Flash Drive ในช่อง USB แล้วโปรแกรมแจ้งว่าไม่ทำงาน หรือไม่แสดง Drive จะทำอย่างไรดี? อย่าเพิ่งตกใจ เรามีวิธีเบื้องต้นในการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหา ดังนี้
-ลองเปลี่ยน USB Port ที่เสียบดูว่า ทำงานกับช่องอื่นๆ (port อื่นๆ) ได้หรือไม่
-ลองนำ Flash Drive นี้ไปใช้งานกับคอมฯ เครื่องอื่นๆ ดู ว่าทำงานหรือไม่

ถ้าปรากฏว่าเครื่องคอมฯ อื่นๆ สามารถใช้งาน Flash Drive ของคุณได้ แนะนำให้ตรวจเช็คเครื่องคอมฯ ของคุณดังนี้

การเชื่อมต่อ Flash Drive คุณมีการใช้สาย USB ช่วยในการเชื่อมต่อหรือไม่ เพราะ USB Flash Drive มีเวอร์ชั่นที่เป็น 1.1 และ 2.0 ดังนั้น ถ้าคุณใช้สายไม่ถูกเวอร์ชั่น ก็อาจมีปัญหาได้ ให้ทดลองเปลี่ยนสายดู หรืออาจต่อโดยตรงเข้ากับ USB Port ได้ทันที
-ตรวจสอบจาก Device Manager ของ Windows
-ให้คลิกขวาที่ My Computer เลือก Properties
-คลิกเลือกแท็ป Hardware
-คลิกเลือก Device Manager
-ดูหัวข้อด้านล่าง "Universal Serial Bus Controllers" ดูว่ามีรายการไหนขึ้นเครื่องหมายคำถามสีเหลือง หรือมีอะไรผิดปกติหรือไม่ ถ้ามี คุณจำเป็นต้องติดตั้ง driver ของ USB ใหม่
-ทางที่ดีแนะนำให้ reinstall USB Driver เลยจะดีกว่า

กำจัดไวรัส Autorun

สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกท่าน
ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และใช้ Flash Drive หรือ USB hard disk ในการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างเครื่อง คุณทราบหรือไม่ว่าคุณกำลังเสี่ยงกับการติดไวรัสอย่างมาก โดยเฉพาะไวรัส AutoRun ซึ่งเป็นไวรัสที่ผมได้พบบ่อยมากๆ

Virus Autorun บน Flash Drive
อาการที่สังเกตุง่ายๆ เมื่อติดไวรัส AutoRun แล้ว นั่นคือ เราจะไม่สามารถเปิดไฟล์งานได้โดยตรง จะขึ้นคำว่า "Open with" และถ้าเราเข้าไปดูรายชื่อไฟล์ใน Flash Drive จะพบไฟล์ที่ชื่อว่า "Autorun.ini" ถ้าเครื่องคอมฯ ของคุณติดไวรัสนี้แล้ว แค่เพียงนำ Flash Drive ของคนอื่น มาเสียบก็จะทำให้ติดไวรัส AutoRun ได้ทันที



วิธีกำจัดไวรัส AutoRun




เพียงแค่ download และติดตั้งโปรแกรม CPE17 Autorun Killer ซึ่เป็นฟรีโปรแกรมที่สามารถหา download มาติดตั้งใน "Startup" และสั่งให้รันทุกครั้งที่เปิด Windows โปรแกรมจะตรวจสอบการเสียบ Flash Drive อัตโนมัติ และจะทำกาำรลบไฟล์ Autorun รวมทั้งไฟล์ที่มีนามสกุล .EXE ใน root ของ Flash Drive

:: Download โปรแกรม CPE17 Autorun Killer ขนาดไฟล์ประมาณ 52 KB

ทิปเพิ่มเติม

ห้ามทำการ copy โปรแกรมเก็บไว้ใน root directory ของ Flash Drive เพราะจะถูกลบอัตโนมัติ
ก่อนการใช้งาน Flash Drive ทุกครั้ง ควรทำการรัน scan virus ก่อนทุกครั้ง

ดูหนังระดับ HD ต้องฟรีโปรกรม Miro

อีกหนึ่งฟรีแวร์ดีๆ ที่ต้องรีบแนะนำ Miro เป็นฟรีโปรแกรมสำหรับดูหนังในระดับ HD (High Definition) รองรับไฟล์วีดีโอรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น QuickTime, WMV, Mpeg, AVI รวมทั้ง XVID และอื่นๆ อีกมาก นอกจากนี้โปรแกรมยังรองรับการดูวีดีโอความละเอียดสูงผ่านทางอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการดูไฟล์ HD ทาง Youtube, Google Video, Blip เป็นต้น และอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ รองรับภาษาได้มากกว่า 40 ภาษาเลยทีเดียว


สนใจ download Miro HD Video Player ขนาดไฟล์ 24.53 MB


ความสามารถของโปรแกรม Miro




HD Video Player ดูวีดีโอความละเอียดสูง
รองรับ Video Playlists
รองรับไฟล์วีดีโอ ประเภท QuickTime, WMV, Mpeg, AVI รวมทั้ง XVID และอื่นๆ
Free Internet TV Tools
Video padcast'
รองรับการ download BitTorrent
สามารถกันขนาดของพื้นที่เพื่อการ download ได้ (ป้องกันปัญหา hard disk เต็ม)
รองรับการใช้งานมากกว่า 40 ภาษา
รองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS, Windows และ Linux
เป็นฟรีโปรแกรมที่น่าสนใจ น่าใช้งานมาก รวมทั้งเป็นโปรแกรมที่นิยมใช้ในการดูไฟล์วีดีโอความละเอียดสูง หรือ HD ด้วยเช่นกัน

ควบคุมเสียงคอมพิวเตอร์ด้วย Mouse

ปกติเวลาที่เราต้องการเปิดปิด หรือปรับระดับเสียงในคอมพิวเตอร์ เราสามารถคลิกเข้าไปที่ไอคอนรูปลำโพง จากนั้นก็เลือกเลื่อนเสียงขึ้นลงในช่อง "Volumn Control" เพื่อปรับเสียงเบาหรือดังลงได้ สำหรับบางท่านที่ใช้ Notebook บางรุ่น จะมีปุ่มปรับเสียงเบา หรือให้ดังขึ้นโดยเฉพาะ หรือบางคนอาจซื้อเม้าส์รุ่นที่มีปุ่มปรับเสียงกันไปเลย แต่ทั้งหมดนี้หลายๆ คนอาจยังไม่มี ไม่เป็นไรครับ! วันนี้ผมมีโปรแกรมดีๆ มาแนะนำ แถมฟรีอีกต่างหาก


Volumouse ฟรีโปรแกรมปรับระดับเสียงลำโพง



สนใจ download Volumouse ขนาดไฟล์ 48.9 KB
เพียง download โปรแกรมและติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เราก็สามารถกำหนดปุ่มในการควบคุมเสียงได้แล้ว ตัวอย่างการใช้งาน

กดปุ่ม Alt ที่แป้นพิมพ์ค้าง เลื่อนปุ่มเม้าส์ (ตรงกลางขึ้นลง) จะหน้าหน้าต่างเล็กๆ แสดงระดับเสียงให้เราปรับแต่งได้
หรือกดปุ่มทางซ้ายของเม้าส์ค้าง (Left Mouse) เลื่อนปุ่มเม้าส์ (ตรงกลางขึ้นลง) จะหน้าหน้าต่างเล็กๆ แสดงระดับเสียงให้เราปรับแต่งได้ เช่นกัน
นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดวิธีการอื่นๆ เพียงใช้สำหรับการปรับระดับเสียงในคอมพิวเตอร์ของเราได้แล้วครับ เรียกว่าเป็นโปรแกรม Utiltiy จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ

ตัวแทนเยาวชนเข้าค่าย ICT และร่วมดูงานแอนิเมชันระดับประเทศ

เมื่อวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้จัดทัศนศึกษาดูงานด้าน ICT (ICT Camp) ให้แก่เยาวชนที่ได้รับคัดเลือกจากคะแนนทดสอบหลังการฝึกอบรมความรู้ และทักษะด้าน ICT ในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ภูมิภาคละ 15 คน

ตัวแทนเยาวชนได้ทัศนศึกษาดูงาน ณ บริษัท อิมเมจิแม็กซ์ จำกัด โดยได้เข้าชมการผลิตแอนิเมชันแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ รวมทั้งการใส่เอ็ฟเฟ็กซ์ต่าง ๆ ในการผลิตภาพยนตร์โฆษณา การ์ตูน เกมออนไลน์ และภาพยนตร์ในโรงฉาย ทั้งนี้ เยาวชนได้เห็นประสบการณ์ตรงจากการทำงานกันอย่างใกล้ชิด


จากนั้น ได้เดินทางไปทัศนศึกษาดูงาน ณ ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนค่ายจักรพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อดูแหล่งเรียนรู้ด้าน ICT ของชาวบ้านในค่ายฯ และบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ เยาวชนยังได้เยี่ยมชมความงดงามของวัดแก้วพิจิตร ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปราจีนบุรีอีกด้วย

และตัวแทนเยาวชนได้ร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุนสนาน ณ ค่ายบริบูรณ์ทรัพย์ อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี โดยได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ จากต่างภูมิภาค ซึ่งเยาวชนได้ฝึกการทำงานเป็นทีม ความกล้าแสดงออก และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ จากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตลอด 3 วัน 2 คืน และปิดท้ายการเข้าค่ายในครั้งนี้ ด้วยการเข้าฟังสัมมนา ในหัวข้อ “ภัยตัวร้าย ที่แฝงอยู่ในเกมออนไลน์” จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักใช้ ICT ให้ถูกต้อง และแบ่งเวลาในการเล่นเกมได้อย่างเหมาะสม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการภาพข่าวเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ บริษัท ไดเร็คชั่น แพลน จำกัด (แผนกโครงการ)
539/2 อาคารมหานครยิบซั่ม ชั้น 22 ถ. ศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400

โทร. 0 2642 5241-43, 0 2247 2339-40 ต่อ 133-136 โทรสาร 0 2247 2363
E-mail: DIRECTIONPLAN@hotmail.org, poo@it77.com

อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ แถลงข่าวแนะนำ “ASUS Notebook U Series”

บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการยกย่องในความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีและการออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยการคว้ารางวัลจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น RedDot (เยอรมนี), G-Mark (ญี่ปุ่น), Stuff (ฝรั่งเศส), Computer Magazine (ฝรั่งเศส), PC Magazine (ฝรั่งเศส), FRAZ.PC (โปแลนด์), PC Achat (ฝรั่งเศส) และล่าสุดคือได้รับรางวัล iF Design Gold Award ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบ

และในครั้งนี้ อัสซุส ประกาศย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่โดดเด่น ด้วยแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของปีกผีเสื้อ ถ่ายทอดผ่าน ASUS Notebook U Series ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความบางเบา งดงามมีเสน่ห์ ที่ประสานกับคุณสมบัติทรงประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า ทำให้อัสซุสโน้ตบุ๊ก รุ่น U Series พัฒนามาเป็นโน้ตบุ๊กที่สมบูรณ์แบบที่สุดในขณะนี้


ภายในงานท่านจะได้สัมผัสกับ “ASUS Notebook U Series” หลากหลายรุ่น เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน พร้อมกับ คุณพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมาอัพเดทเทรนด์สินค้าและนวัตกรรมใหม่ของครึ่งปีหลังให้ทราบ ตามกำหนดการดังนี้

กิจกรรม: งานแถลงข่าวแนะนำ “ASUS Notebook U Series”
วัน: วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เวลา: 13.30 – 15.00 น.
สถานที่: GLEN BAR / ชั้น 1 Pullman Hotels & Resorts ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: ทีมประชาสัมพันธ์อัสซุส:
บริษัท โปรเฟสชันแนล มีเดีย บิสซิเนส จำกัด: คุณถนอม จิตธรรมเสถียร (ใหม่)
โทรศัพท์ 02-934-6718 ต่อ 12 โทรสาร 02-934-6720-21 อีเมล์: thanom_j@pmb.co.th,

โปรเซสเซอร์ AMD Athlon? II X2 245 และ 240 ใหม่ ประหยัดพลังงานอย่างที่ทุกคนต้องการจากเมนสตรีมพีซี

เอเอ็มดี (NYSE:AMD) เปิดตัว AMD Athlon™ II X2 dual-core 245 และ 240 โปรเซสเซอร์ใหม่สำหรับพีซีระดับเมนสตรีม ผลิตด้วยเทคโนโลยี 45 นาโนเมตร และวางจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 2,300 บาท (ประมาณ 67 ดอลลาร์สหรัฐ) โปรเซสเซอร์ใหม่ทั้งสองรุ่นจะแสดงพลังออกมาเต็มที่เมื่อใช้ร่วมกับชิปเซ็ตของเอเอ็มดี และพร้อมสำหรับการใช้งานประจำวัน รวมถึงงานมัลติทาสกิ้ง ที่สำคัญคือทั้งเงียบและเย็น

ทำไมล่ะ: ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผู้บริโภคทั่วโลกต่างมองหาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ต้องมีสมรรถนะสูงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และด้วย AMD Athlon™ II X2 dual-core 245 และ 240 ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์สามารถผลิตเครื่องพีซีที่พร้อมตอบสนองทุกๆ ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งเรื่องสมรรถนะ, ความประหยัดพลังงาน และราคา ให้ผู้ใช้สนุกกับโลกดิจิตอลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลใดๆ


ใครได้รับประโยชน์: AMD Athlon™ II X2 dual-core 245 และ 240 ถูกพัฒนาขึ้นท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดเมนสตรีม สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มากด้วยความสามารถ มีสมรรถนะดีที่สุดเทียบกับผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกัน ในราคาที่คุ้มค่า มีความพร้อมสำหรับการใช้งานที่บ้านไม่ว่าจะใช้ทำงานหรือเล่นเกมก็ตาม ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ในโลกดิจิตอลที่ดีกว่า หรือสมรรถนะที่ดีกว่าสำหรับงานมัลติทาสก์ โปรเซสเซอร์ใหม่ให้พวกเขาได้มากกว่าที่พวกเขาต้องการ

มีประโยชน์อะไรบ้าง: โปรเซสเซอร์ AMD Athlon™ II มาพร้อมสมรรถนะสำหรับงานมัลติทาสก์ เช่น การสร้าง, เรนเดอร์, ส่งผ่าน และแชร์มัลมีเดียคอนเทนต์ และเมื่อทำงานร่วมกับ ATI Radeon™ HD และชิปเซ็ตของเอเอ็มดีแล้ว สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับก็คือประสบการณ์การรับชมภาพและเสียงที่เหนือกว่า, การประมวลผลมัลติทาสก์ที่ลื่นไหล และสมรรถนะด้านดิจิตอลมีเดียที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ

Google ติด"AdSense"ในแอพฯบนมือถือ

กูเกิ้ลแนะนำแพลตฟอร์มเปิดสำหรับโฆษณา AdSense บนแอพพลิเคชันมือถือ โดยนักพัฒนาแอพฯ บน Android และ iPhone จะสามารถฝังโฆษณาจาก Google เข้าไปในแอพพลิเคชันของตน เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม กูเกิ้ลไม่ได้เป็นเจ้าแรกที่ยิงโฆษณาเข้าไปในแอพพลิเคชัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ AdMob ได้ให้บริการดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม iPhone ตลอดจนเครื่องเล่นต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงโฆษณาเข้าในแอพพลิเคชันของนักพัฒนาได้ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่การที่กูเกิ้ลกระโดดเข้ามาในสมรภูมินี้ ดูมีนัยสำคํยบางอย่าง แม้แพลตฟอร์มที่แจกจ่ายออกมาให้กับนักพัฒนาตอนนี้จะยังคงเป็นแค่เวอร์ชั่นทดลองเท่านั้น



งานนี้ต้องขอบคุณ Apple ที่ทำให้โลกของสมาร์ทโฟนเปลี่ยนไป โดยไม่ได้จำกัดแค่มือถือที่รันแอพพลิเคชันได้เท่านั้น แต่กำลังจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้โฆษณา เพื่อแลกเปลียนกับการได้ใช้แอพพลิเคชันดีๆ โดยไม่ต้องเสียสตังค์ ซึ่งน่าจะเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ผู้ใช้ไอโฟน และแอนดรอยด์พอใจ ทางด้านกูเกิ้ลตอนนี้ได้เตรียมหน้าลงทะเบียนบนเว็บ สำหรับนักพัฒนาที่สนใจติดเอ็นจิ้นโฆษณาเข้าไปในแอพพลิเคชั่นของตน และนักการตลาดที่ต้องการลงโฆษณาแล้วด้วย ส่วนกติกาของนักพัฒนาที่สนใจจะต้องมีแอพฯฟรีที่พร้อมจะติดตั้งเอ็นจิ้นของโฆษณา และมีผู้สนใจอย่างน้อย 10,000 เพจวิวต่อวัน โดยจะรันบน iPhone หรือ Android ก็ได้

Bad Copy Pro ซอฟต์แวร์สำหรับการ copy ข้อมูลจากแผ่นดิสก์หรือซีดีที่อ่านไม่ได้

ขอแนะนำซอฟต์แวร์ ที่ใช้สำหรับการ copy ไฟล์ออกมาจากแผ่นดิสก์หรือแผ่นซีดี ที่เสียหรือไม่สามารถอ่านด้วยวิธีการปกติได้ เช่น แผ่นดิสก์ที่ใกล้จะเสีย หรือแผ่นซีดีที่มีรอยขีดข่วนค่อนข้างมาก โดยที่ข้อมูลที่จะได้ออกมานั้น ถ้าหากเป็นข้อมูลไฟล์ทั่ว ๆ ไป อาจจะเกิดความเสียหายไปบ้าง แต่ถ้าหากเป็นกรณีของเพลง หรือไฟล์ของหนัง vcd ต่าง ๆ ก็พอที่จะทำการ copy ออกมาได้บ้าง ซอฟต์แวร์ตัวนี้คือ Bad Copy Pro นั่นเอง

ลองมาดูตัวอย่างกันก่อนดีกว่า ปกติถ้าหากเป็นการ copy ไฟล์ของ vcd จากแผ่นซีดี เอามาเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ โดยใช้การ copy และ paste ธรรมดาทั่ว ๆ ไป ถ้าหากไฟล์ไม่เสีย ก็จะทำการ copy มาได้จนครบทั้งหมด เช่น การ copy ไฟล์ MUSIC01.DAT จากแผ่น vcd ด้านล่างนี้




โดยปกติก็เพียงแค่เลือกเมนู copy และ paste ไปยังปลายทาง




แต่ถ้าหาก ไฟล์นั้นเสียหรือแผ่นซีดีมีรอยขีดข่วนมาก ๆ ก็จะไม่สามารถทำการ copy แบบปกตินี้ได้ ในกรณีนี้นี่เอง ที่ต้องพึ่งพาอาศัย โปรแกรมช่วยตัวนี้กันครับ

เริ่มต้นการติดตั้งและใช้งานซอฟต์แวร์ Bad Copy Pro กันก่อน

ตัวซอฟต์แวร์ Bad Copy Pro สามารถหาดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ http://www.jufsoft.com และเนื่องจากเป็นแชร์แวร์ที่ต้อง ลงทะเบียนก่อน จึงจะใช้งานได้จริง ก็ต้องทำการหารหัสมาลงทะเบียนกันก่อนด้วยนะครับ ส่วนการติดตั้งนั้นง่ายมาก เพียงแค่ทำการ เรียกไฟล์สำหรับติดตั้ง และกดที่ปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ จนจบขั้นตอนได้เลย

เริ่มต้นการใช้งาน โดยเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงานก่อน



เมื่อเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงาน จะเห็น 5 ขั้นตอนตามลำดับเลยครับ ในที่นี้จะยกตัวอย่าง การทำการ copy ไฟล์จากแผ่น vcd ที่แผ่นเสียจนไม่สามารถทำการ copy แบบปกติได้ ดังนั้น ขั้นแรก ก็เลือกแหล่งข้อมูลที่เราจะ copy คือ CD-ROM ก่อน




ในกรณีที่เครื่องมีหลายไดร์ฟ เลือกไดร์ฟ CD ที่ต้องการอ่านข้อมูลออกมา และกดที่ปุ่ม Next >>



ขั้นตอนที่ 2 ก็เลือก Folder หรือไฟล์ที่ต้องการจะกู้ออกมา เช่นจากตัวอย่าง จะเป็นไฟล์ของหนัง vcd อยู่ใน Folder ที่ชื่อ MPEGAV และไฟล์ชื่อ MUSIC01.DAT (ซึ่งเป็นไฟล์หนังของซีดี) จากนั้น ก็เลือกวิธีการกู้ข้อมูล โดยที่มี 3 แบบให้เลือกดังนี้

Max Data เลือกถ้าต้องการข้อมูลให้ได้มากที่สุด
Normal เลือกในกรณีของการทำงานปกติ
Max Speed เลือกถ้าต้องการความเร็วสูงที่สุด

โดยปกติ ก็ทดลองเลือกที่ Normal ก่อน ถ้าพบปัญหา ค่อยเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่น ๆ ครับ จากนั้น ก็กดปุ่ม Next >>



ขั้นตอนที่ 2 โปรแกรม จะทำการอ่านไฟล์ที่ต้องการอยู่สักครู่หนึ่ง



รอจนจบการทำงาน ก็จะมีเมนูหน้าต่างนี้ขึ้นมา กดที่ปุ่ม OK ครับ



ขั้นตอนที่ 4 คือ ทำการเลือกพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ ที่จะนำข้อมูลไปเก็บไว้ แล้วกดที่ปุ่ม Next >>




รอสักครู่หนึ่ง ก็เป็นอันจบการทำงานครับ สำหรับกรณีที่เป็นซอฟต์แวร์ ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ตัวโปรแกรมนี้ จะไม่ทำการ copy ไฟล์ที่ได้มาให้นะครับ ต้องทำการลงทะเบียนก่อนเท่านั้น จึงจะใช้งานได้สมบูรณ์



จากนั้น ก็จะได้ไฟล์ที่กู้มาได้ครับ โดยที่หากเป็นกรณีของไฟล์เสียงหรือภาพต่าง ๆ อาจจะมีการ error หรือมีกรณีไฟล์เสียไปบ้าง แต่ก็ไม่มีผลมากนักครับ ยังสามารถใช้ดูหรือฟังได้ปกติ แต่กรณีที่เป็นไฟล์ข้อมูล ก็อาจจะใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างนะครับ อย่างน้อย ก็ยังเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่ง ในการกู้หรือ copy ไฟล์ข้อมูลกลับมาจากแผ่นดิสก์หรือแผ่นซีดี ที่มีปัญหาได้ครับ

Speed Fan ซอฟต์แวร์สำหรับการตรวจสอบและวัดความร้อนของซีพียู

โดยปกติแล้ว เมนบอร์ดรุ่นใหม่ ๆ จะมีเซ็นเซอร์สำหรับ ใช้ในการวัดอุณหภูมิหรือความร้อนของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่อง ซึ่งวิธีการที่จะ เข้าไปอ่านค่าของความร้อน ของอุปกรณ์เหล่านี้ออกมาได้ จะทำได้ 2 วิธีคือ การเข้าไปดูจากเมนูของหน้า BIOS Setup หรือการใช้ ซอฟต์แวร์ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อทำการอ่านค่าความร้อนออกมา และแสดงบนหน้าจอหรือแสดงบน task bar ด้านล่างได้

สำหรับเมนบอร์ดที่มียี่ห้อเช่น ASUS ก็จะมีซอฟต์แวร์สำหรับการแสดงค่าความร้อนของระบบเหล่านี้อยู่แล้วคือ ASUS Probe และถ้าหากเป็นเมนบอร์ดของยี่ห้ออื่น ๆ ก็มักจะมีซอฟต์แวร์ ที่แถมมากับเมนบอร์ด เพื่อใช้ในการแสดงค่าความร้อนเหล่านี้ แต่ปัญหา หลัก ๆ ที่จะพบกันได้บ่อยคือ ซอฟต์แวร์ที่มีแถมมากับเมนบอร์ดเห่านี้ จะไม่ค่อยมีความสวยงามในการแสดงผล และไม่สามารถแสดง ค่าของความร้อนบนหน้าจอได้ตลอดเวลา ทำให้ไม่เกิดความสะดวกในการใช้งานเท่าไรนัก ดังนั้น จึงขอแนะนำโปรแกรม Speed Fan ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี สามารถนำมาใช้แสดงค่าความร้อน โดยแสดงตัวเลขบน taskbar ได้เลย และสามารถใช้งานได้กับเมนบอร์ดหลาย ๆ รุ่น รวมทั้งยังสามารถแสดงค่าความเร็วของพัดลม ค่าแรงดันไฟของระบบ และยัง แสดงค่าความร้อนของฮาร์ดดิสก์ได้ด้วย ยังไงก็ทดลองใช้งานกันดูเองดีกว่า

เริ่มต้น ก็ทำการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ Speed Fan มาก่อน โดยสามารถหาได้จาก http://www.almico.com/speedfan.php ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ ที่เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี หลังจากนั้นก็เริ่มต้นการติดตั้งได้เลยครับ



ขั้นตอนการติดตั้ง จะไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก กดที่ปุ่ม I Agree และปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ ได้เลยจนจบ



หลังจากจบการติดตั้ง ซึ่งจะเป็นหน้าตาตามภาพตัวอย่างด้านบนนี้ เป็นอันจบขั้นตอน ต่อไปก็เริ่มต้น เรียกโปรแกรม Speed Fan ขึ้นมาใช้งานกันได้เลย



เริ่มต้นครั้งแรกของการเรียกใช้งานโปรแกรม จะเห็นหน้าจอของการแสดงค่าต่าง ๆ โดยสังเกตุว่า ค่าแสดงความร้อน จะยังไม่มี การแยกค่าออกมาให้เราดูอย่างง่าย ๆ แต่จะเป็นการแสดงออกมาเป็นคำว่า Temp1, Temp2 หรือเป็นตัวอักษรอย่างอื่นไป ซึ่งเราต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ให้ง่ายต่อการใช้งานก่อน โดยการกดที่ปุ่ม Configure



เมื่อเข้ามาที่หน้าของ Configure จะเห็นว่า มีการตั้งชื่อของค่าต่าง ๆ ไว้แล้ว และสามารถที่จะทำการเปลี่ยนชื่อเหล่านี้ได้ โดยการกดปุ่ม F2 ที่ค่าต่าง ๆ ในแต่ละรายการและเปลี่ยนชื่อตามต้องการ



จากตัวอย่างในภาพด้านบน เราก็ทำการแก้ไขชื่อต่าง ๆ ได้เลย โดยที่ปัญหาหลัก ๆ คือ แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า เซ็นเซอร์ตัวไหน ใช้สำหรับวัดอะไร อันนี้ก็ต้องเดา ๆ กันเอาเองครับ โดยจากตัวอย่างก็จะเปลี่ยนชื่อของเซ็นเซอร์ ให้เป็นชื่อของค่าต่าง ๆ และถ้าหาก เซ็นเซอร์ตัวไหน เราไม่ต้องการให้แสดง ก็เอาเครื่องหมายถูกออกไปซะครับ

จากนั้น ให้มาดูที่ด้านล่าง เราสามารถกำหนดค่าความร้อนที่จะให้โปรแกรมแสดงว่าความร้อนสูงมากเกินไป โดยเลือกตั้งที่ช่อง Warning และถ้าหากต้องการให้ค่าความร้อน มาแสดงใน taskbar ของจอด้านล่างขวามือ ก็ใช้เมาส์กดเลือกที่ค่านั้นก่อน และมาทำการเลือกที่ช่อง Show in tray ด้วย และจากนั้นก็กดที่ปุ่ม OK เพื่อกลับไปหน้าแรกของโปรแกรม



เมื่อกลับมาหน้าแรกของโปรแกรม จะเห็นว่า ตัวอักษรต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไปตามที่เราตั้งชื่อไว้ครับ



นอกจากนี้ ที่เมนูอื่น ๆ เช่น SMART ก็จะใช้สำหรับการแสดงค่าของ ฮาร์ดดิสก์ที่มีระบบ SMART เพื่อมห้ สามารถทำการ แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของฮาร์ดดิสก์ตัวนั้นได้ด้วย ตามภาพด้านบน



ที่หน้าจอของ Charts ก็ยังทำการแสดง chart ของค่าต่าง ๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง เช่นการเปลี่ยนแปลงความร้อน หรือความเร็วพัดลม หรือค่าไฟต่าง ๆ ได้ด้วย



สุดท้าย เมื่อทำการตั้งค่าต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ปุ่ม Minimize เพื่อย่อหน้าจอของโปรแกรมลงมา โดยจะแสดง เป็นตัวเลข ค่าความร้อน ตามที่เราได้ตั้งไว้ใน taskbar แทน และถ้าหาก เอาเมาส์ไปชี้ที่ตัวเลข ก็จะมี tool tips แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ได้ด้วย

Set IE ให้เป็น Default Browser

สำหรับผู้ชอบทดสอบโปรแกรม browser ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Netscape หรือ Opera หลาย ๆ ครั้งพอเปิดโปรแกรมเพื่อ surf web ก็มักจะเข้าไปที่โปรแกรมนั้น ๆ แต่ถ้าท่านต้องการให้โปรแกรม Internet Explorer ให้เป็น Default Browser (หมายถึงเปิด web แล้วให้เข้าไปที่ IE ก่อน) เราสามารถกำหนดได้โดยมีขั้นตอนดังนี้

เข้าไปที่ Internet Explorer
คลิกเมนู Tools
คลิกเลือก Internet Options

คลิกเลือกแท็ป Programs จากนั้นคลิกถูก หน้า คำว่า Internet Explorer should check to see whether it is the default browser ดูภาพประกอบด้านล่างนี้




คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน

วิธีการสร้าง Association ของไฟล์

File Association หมายถึง ความสัมพันธ์ของไฟล์ กับโปรแกรม ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถ ดับเบิลคลิกไฟล์ที่เป็น .DOC แล้วโปรแกรม microsoft word จะถูกเปิดให้อัตโนมัติ เป็นต้น แต่บางครั้งความสัมพันธ์ของไฟล์ อาจเสียไป เนื่องจากการติดตั้งโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง อย่างไรก็ตามเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ของไฟล์ใหม่ได้ โดยการทำตามขั้นตอนดังนี้...

เปิด Windows Explorer
คลิกเลือกไฟล์ เช่น logo.gif
กดปุ่ม Shift ค้างไว้ จากนั้นคลิกขวาเลือก Open With



คลิกเลือกโปรแกรมที่จะให้เปิดไฟล์ประเภท GIF
คลิกเลือกถูกหน้าคำสั่ง Always use this program to open this type of file
คลิกปุ่ม OK
หลังจากนี้ทุก ๆ ครั้งที่เราดับเบิลคลิกที่ไฟล์ .GIF โปรแกรม Photoshop ก็จะถูกเปิดให้อัตโนมัติ

ยกเลิกการแจ้ง Error ไปยัง Microsoft

หลายต่อหลายครั้งที่ Windows XP มีปัญหา จะมีหน้าต่างแสดงให้เราส่งข้อมูล หรือ ปัญหานั้นๆ ไปยัง Microsoft ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุง Windows ให้ดีขึ้น ซึ่งจะต้องมีการต่อ Internet ก่อนเสมอ

หลายๆ คนอาจรู้สึกรำคาญ แต่ไม่เป็นไรครับ เรามีวิธีมาบอก
คลิกขวาที่ My Computer
คลิกเลือก Properties
คลิกเลือกแท็ป Advanced
คลิกเลือก ปุ่ม Error Reporting


คลิกเลือก Disable error reporting
คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันอีกครั้ง
แค่นี้ ก็จะไม่มีหน้าต่าง Send error ให้เห็นอีกแล้ว

ปิดระบบ Remote ใน Windows XP

ระบบ Remote ใน Windows จะมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือ การเข้า link ไปยัง ผู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา กับอีกส่วนหนึ่งคือ การขอความช่วยเหลือจากเครื่องอื่นๆ ซึ่งโดยทั่วไป เชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่ได้ใช้ความสามารถนี้ ดังนั้น เพื่อให้ระบบ Windows ลดการตรวจสอบการทำงาน ซึ่งน่าจะมีผลทำให้คอมฯ ของเราทำงานได้เร็วขึ้นอีกนิดหนึ่ง เรามาปิดระบบ Remote กันดีกว่า
1. ขั้นตอนการปิดระบบ Remote
2. คลิกขวาที่ My Computer
3. คลิกเลือก Properties
4. คลิกเลือกแท็ป Remote
5. คลิกยกเลิกเครื่องหมายถูก หน้า Allow Remote Assistance...

6. คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันอีกครั้ง

ตั้ง command prompt ใน Windows XP

ผู้ใช้งาน Windows รุ่นใหม่ๆ อาจไม่คุ้นเคยกับคำสั่ง Command Prompt แต่สำหรับรุ่นเก่าๆ คงทราบกันดี เพราะเป็นคำสั่งที่ใช้งานกันมากในยุคสมัยที่ระบบปฏิบัติการ DOS ยังรุ่งเรืองอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้งานในปัจจุบันก็ยังคงมีความจำเป็นพอสมควร สำหรับผู้ที่ชอบความแปลกใหม่ ลองนำไปใช้งานกันดีก็ได้น่ะครับ

วิธีการกำหนดหน้าตาของ command prompt
1. เรียกเข้าโปรแกรม Command Promt
2. คลิกปุ่ม Start
3. คลิกเลือกคำสั่ง RUN
4. พิมพ์คำว่า command สำหรับ Windows เวอร์ชั่น 98, ME
5. พิมพ์คำว่า cmd สำหรับ Windows เวอร์ชั่น 2000, XP, 2003
6. ตัวอย่างคำสั่งของการแสดงใน command prompt
$d แสดงวันที่ปัจจุบัน
$t แสดงเวลาปัจจุบัน
$g แสดงตัวอักษร ">"
$p แสดง path ปัจจุบัน หรือ โฟลเดอร์ในการทำงานปัจจุบัน
7. ทดสอบคำว่าโดยพิมพ์คำว่า "prompt $d $t $g" กดปุ่ม Enter ตาม จะได้ดังภาพประกอบ

8. สำหรับการยกเลิกคำสั่งให้พิมพ์คำว่า prompt และกดปุ่ม Enter ตาม

หยุด AutoPlay ของ CD-Rom

โดยค่าปกติ ของ Windows หลังจากที่คุณใส่แผ่น CD ใน CD-Rom Drive โปรแกรมจะพยายามอ่านให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่น CD Song หรือ CD Game แต่ถ้าคุณไม่ต้องการ คุณลักษณะแบบนี้ สามารถยกเลิกได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม Start เลือก Settings
2. เลือกเมนู Control Panel
3. ดับเบิลคลิกที่ไอคอน System

4. คลิกเลือกแท็ป Device Manager
5. ดับเบิลคลิกที่ CD-ROM และเลือกคลิกเลือก CD-Rom ที่ใช้งานอยู่
6. คลิกเลือก Properties
7. คลิกเลือกแท็ป Settings
8. คลิกยกเลิกในช่อง Auto Insert Notification

9. ในทางกลับกัน ถ้าต้องการใช้คุณสมบัติ AutoPlay ก็สามารถใส่เครื่องหมายถูกหน้าข้อความข้างต้นนี้ได้

วิธีตรวจสอบเวอร์ชั่นของ Windows

เพื่อให้ทราบว่า Windows ของคุณ Updated แค่ไหน ทั้งนี้เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่า Windows ของคุณมีความสามารถในการทำงานแค่ไหน การ update Windows จะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้คุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Bug ของโปรแกรม หรือช่วยในเรื่องระบบ security จากไวรัส จาก hacker ได้ด้วย

วิธีการตรวจสอบ
1. คลิกปุ่ม Start
2. คลิกเลือก RUN
3. พิมพ์คำว่า winver และกดปุ่ม OK
จะได้ดังภาพประกอบ

ดูรายละเอียดที่ช่อง Version
ถ้าต้องการตรวจสอบว่า Windows ของคุณ update แล้วหรือยัง คุณสามารถ คลิก Update เพื่อตรวจสอบผ่านทาง internet ได้ครับ..

ติดตั้ง Firewall ใน Windows XP

วิธีติดตั้ง Firewall ใน Windows XP

สำหรับผู้ใช้งาน Windows XP ต้องขอแสดงความยินด้วย เนื่องจาก Windows เวอร์ชั่นนี้ มี โปรแกรม Firewall ติดตั้งมาให้ด้วย แต่สำหรับผู้ใช้งาน Windows 2000, ME, 98 สามารถหา download free โปรแกรม Firewall มาติดตั้งเพิ่มเติมได้เช่นกัน
วิธีติดตั้ง Firewall ใน Windows XP
1.คลิกปุ่ม Start
2.คลิกเลือก Control Panel
3.คลิกเลือก Network Connections

4.คลิกเลือก จาก Connection ที่คุณใช้ต่ออินเตอร์เน็ต

5.คลิกขวาที่ connection ที่ใช้ เลือก Properties
6.คลิก tab ชื่อ Advanced

7.คลิกให้มีเครื่องหมายถูก หน้าข้อความ Protect my computer and network by...
8.คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันอีกครั้ง

บันทึกเพลงจาก CD เข้าคอมพิวเตอร์

สำหรับผู้ชื่อชอบเพลง MP3 วันนี้เรามีวิธีการบันทึกไฟล์เพลงจาก CD เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างง่ายๆ มาฝากกัน โดยไม่จำเป็นต้องไปหาโปรแกรมจากที่ไหนเลย เพระาถ้าเราใช้งาน Windows XP ก็มีอยู่แล้วในเครื่องคอมฯ ของเรา นั้นคือ Windows Media Player นั่นเอง สำหรับเวอร์ชั่นที่ใช้ในการสาธิตนี้คือ Windows Media Player 10

ขั้นตอนการบันทึกไฟล์ Audio CD เข้าสู่เครื่องคอมฯ หรือที่เราเรียกกัยว่า "RIP" มีดังนี้ (Rip แปลเป็นภาษาไทยว่า ตัด ฉีก)
1.ใส่แผ่น Audio CD เพลงที่ต้องการ
2.Windows จะเปิดหน้าต่างอัตโนมัติ ถ้าไม่ขึ้นตามนี้ ให้เปิดโปรแกรม Windows Media Player จากนั้นคลิกไปแท็ป RIP

3.เลือกคำสั่ง Rip music from CD

4.โปรแกรมจะเริ่ม copy ตามภาพประกอบ ให้รอจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์
5.อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอีกหน้าต่างหนึ่งปรากฏก่อนการ Rip ให้เลือก options ใดก่อนก็ได้
หรือ ถ้าต้องการปรับแต่งการ Rip เพลง สามารถเข้าเมนู Tools เลือก Options
6.เลือกหน้าต่างแท็ป Rip Music

7.สามารถเปลี่ยนไฟล์ที่ได้จาก .Wma มาเป็น Mp3 ได้จากเมนูนี้ ที่ Rip settings เลือก Format ที่ต้องการ

การติดตั้งภาษาอื่น ๆใน Windows 2000 Pro

ด้วยความสามารถพิเศษของ Windows 2000 ในเรื่องการใช้งาน Mulit-Language ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจาก Microsoft ได้พัฒนา Windows รุ่นใหม่ ๆ ออกมา ในแต่ละประเทศที่มีภาษาส่วนตัวใช้ จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมในภาษาของตนเองอีก ทำให้เกิดความล่าช้าในการเรียนรู้การใช้งานเป้นอย่างมาก แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว...
โดยปกติหลังจากติดตั้ง Windows 2000 แล้วเราจะได้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน แต่ด้วยความสามารถของ Windows เองที่สามารถ support ภาษาอื่นๆ ได้อีกมากมายทำให้เราสามารถติดต่อได้หลายภาษาในเครื่องคอมพิวเตอร์เดียวกัน สำหรับขั้นตอนการติดตั้งภาษาอื่นๆ ให้ทำดังนี้

ขั้นตอนการติดตั้งภาษาอื่นๆ
เข้าเมนู Start เลือก settings เลือก control panel
คลิกเลือกไอคอน Regional options
คลิกเลือกแท็ป General เลือกในช่องด้านล่าง เลือกภาษาที่ต้องการ เช่น Japanese
คลิกปุ่ม Apply จากนั้นโปรแกรมจะแจ้งให้ใส่แผ่น Windows 2000 จากนั้นโปรแกรมจะเริ่มติดตั้งให้ และ restart เครื่องใหม่
หลังจากเข้า Windows ใหม่ให้เข้าไปที่ control panel อีกครั้ง คลิกเลือก Keyboard
คลิกแท็ป Input Locates ในช่อง Language คลิกปุ่ม Add และเลือกภาษา Japanese
คลิกปุ่ม OK
หลังจากนี้เราจะได้ภาษา Japan ตามต้องการ
อาจทำการทดสอบได้โดยการเข้าไปที่โปรแกรม Word Pad

-->การติดตั้งภาษาอื่นๆ สามารถติดตั้งได้หลาย ๆ ภาษาในคราวเดียวกัน แต่อาจไม่เกิดความสะดวกในการใช้งาน ทั้งนี้การเปลี่ยนแต่ละภาษาด้วย keyboard จะต้องเปลี่ยนทีละภาษา อาจทำให้เกิดความล่าช้าได้...

วิธีตรวจสอบ Serial No. ของโปรแกรม

การติดตั้งโปรแกรมโดยทั่วไป ส่วนใหญ่โปรแกรมจะให้เข้าใส่ Serial No. หรือเรียกเป็นทางการว่า เลขที่รับอนุญาติ ในการใช้โปรแกรม บางครั้งถ้าเราลืม แต่ได้มีการติดตั้งโปรแกรมนั้น ๆ เข้าไปแล้ว เราสามารถดูหมายเลข Serial No. ของโปรแกรมเหล่านั้นได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

คลิกเมนู Start เลือก Run
พิมพ์คำว่า regedit
คลิกเลือก HKEY_LOCAL_MACHINE
คลิกเลือก Software

จากนั้นให้เลือก software ที่เราต้องการดู
หน้าต่างทางขวา ให้ดูข้อความ Serial No.
บางโปรแกรม Serial No. จะอยู่ ที่ HKEY_CURRENT_USER และอยู่ใน sub Software เช่นเดียวกัน

รับส่ง แฟ๊กซ์ โปรแกรมที่คอยมานาน

วิธีการใช้งานโปรแกรมรับ-ส่ง แฟ๊กซ์
เริ่มต้นจะต้องมีการติดตั้งโปรแกรมสักเล็กน้อย โดยคลิกที่ปุ่ม Start เลือก Printers and Faxes
คลิกเลือกไอคอน Fax และทำตามขั้นตอนที่แสดงไว้
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว จะมีโปรแกรมเสิรมเข้ามาคือ Fax Console
การรับแฟ๊กซ์ ให้คลิกที่เมนู File เลือก Receive a fax now รอสักครู่


การส่งแฟ๊กซ์ สามารถส่งผ่านโปรแกรมที่ใช้งานทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น MS Word, MS Excel เป็นต้น การส่ง ให้คลิกเลือกเมนู Print คลิกเลือก Fax จากนั้นจะมีเนู Fax Wizard เกิดขึ้น คลิก Next จะได้ดังภาพประกอบดังนี้

- ช่อง To พิมพ์ชื่อผู้รับ ช่อง Fax number ให้ใส่หมายเลขแฟ๊กซ์
- จากนั้นคลิกปุ่ม Next จะมีหน้าต่างให้เลือกใส่ ใบปะหน้า (มีรูปแบบให้เลือก)
- จากนั้นคลิก Next โดยสามารถเลือกเวลาการส่งได้ และท้ายสุดเลือก Finish

เปลี่ยนชื่อไฟล์นับร้อย นับพันในคลิกเดียว

สำหรับผู้ใช้งานกล้องดิจิตอล คงอาจเคยประสบปัญหาเช่นเดียวกับผม นั่นคือ ไฟล์ที่ได้จากกล้องดิจิตอล จะมีชื่อขึ้นต้นเหมือนกันและตามด้วยตัวเลขเช่น กล้องโซนี่ของผม จะขึ้นต้นด้วย 'DSC" ตามด้วย "000001.jpg" เช่น DSC00001.jpg, DSC00002.jpg, DSC00003.jpg,... เป็นต้น
เวลามีการ copy ข้อมูลจากกล้องเข้าเครื่องคอมฯ และต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ ก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนครั้งละไฟล์ ซึ่งเสียเวลาค่อนข้างมาก เพราะแต่ละครั้งอาจมีนับร้อยๆ ไฟล์จากการถ่ายเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ถ้ามีการ copy ข้อมูลลงในโฟลเดอร์เดียวกัน ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะถ้าไฟล์ชื่อเดียวกันก็อาจถูกทับกันไปหมด ไอที-ไกด์ มีเทคนิคมาบอกกัน โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
1.Copy ไฟล์ที่ต้องการทั้งหมดลงในเครื่องคอมฯ
2.เปิดโปรแกรม Windows Explorer
3.คลุมชื่อไฟล์ทั้งหมดที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ
4.คลิกขวา เลือกคำสั่ง Rename
5.พิมพ์ชื่อไฟล์ใหม่ที่ต้องการ (โปรแกรมจะเลือกให้เปลี่ยนเพียงไฟล์เดียว) จากภาพ ผมมีการเปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น My Photo.jpg
6.กดปุ่ม Enter
7.โปรแกรมจะเปลี่ยนชื่อไฟล์ใหม่ และเรียงหมายเลขให้ด้วย

ซ่อนไอคอนบนหน้า Desktop - Windows XP

สำหรับหลายคนที่มีการ present งานบ่อยๆ ไม่ว่าจะใช้ notebook หรือ desktop pc และไม่ต้องการให้แสดงไอคอนที่เลอะเทอะ สามารถแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆ ของผมครับ ผมทดลองใช้กับ Windows XP ครับ ง่ายมากๆ ครับ เพียงคลิกเดียว
คลิกขวา บนหน้าจอ Desktop
คลิกเลือกคำสั่ง Arrange Icons by

เลือกคำสั่ง Show Deskto Icons คลิกเลือกเครื่องหมายถูกออก

แค่นี้ ไอคอนบนหน้าจอก็จะหายไป
ถ้าต้องการเรียกกลับมา ให้ทำตามขั้นตอนข้างต้น และคลิกเลือก Show Deskto Icons ให้มีเครื่องหมายถูกข้างหน้า

แป้นพิมพ์ลัด (ShortCut) ใน Windows XP

เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน Windows ง่ายๆ ด้วยการจดจำ และเรียนรู้การใช้งาน Keyboard ผสมผสานกับการใช้งานเม้าส์ รับรองคุณจะทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
BACKSPACE (ดูโฟลเดอร์ย้อนขึ้นหนึ่งระดับใน My Computer หรือ Windows Explorer)
ESC (ยกเลิกงานปัจจุบัน)
CTRL+C (คัดลอก)
CTRL+X (ตัด)
CTRL+V (วาง)
CTRL+Z (ยกเลิก)

DELETE (ลบ)
SHIFT+DELETE (ลบรายการที่เลือกอย่างถาวรโดยไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin)
กดปุ่ม CTRL ขณะที่ลากรายการ (คัดลอกรายการที่เลือก)
กดปุ่ม CTRL+SHIFT ขณะที่ลากรายการ (สร้างทางลัดไปยังรายการที่เลือก)
ปุ่ม F2 (เปลี่ยนชื่อรายการที่เลือก)
CTRL+ ลูกศรขวา (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำถัดไป)
CTRL+ ลูกศรซ้าย (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำก่อนหน้า)
CTRL+ ลูกศรลง (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าถัดไป)
CTRL+ ลูกศรขึ้น (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าก่อนหน้าไป)
CTRL+SHIFT พร้อมกับปุ่มลูกศรใดๆ (ไฮไลต์บล็อกข้อความ)
CTRL+A (เลือกทั้งหมด)
ปุ่ม F3 (ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์)
ALT+ENTER (ดูคุณสมบัติต่างๆ ของรายการที่เลือก)
ALT+F4 (ปิดรายการที่ใช้งานอยู่ หรือปิดโปรแกรมที่ใช้งาน)
ALT+ENTER (แสดงคุณสมบัติของออบเจกต์ที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูทางลัดสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+F4 (ปิดเอกสารที่ใช้งานอยู่)
ALT+TAB (สลับระหว่างรายการต่างๆ ที่เปิดอยู่)
ALT+ESC (สลับไปยังรายการต่างๆ ตามลำดับที่เปิด)
ปุ่ม F6 (สลับไปตามรายการอิลิเมนต์บนหน้าจอในหน้าต่างหรือบนเดสก์ทอป)
ปุ่ม F4 (แสดงรายการแอดเดรสบาร์ใน My Computer หรือ Windows Explorer)
SHIFT+F10 (แสดงเมนูทางลัดสำหรับรายการที่เลือก)
ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูระบบสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
CTRL+ESC (แสดงเมนู Start)
ALT+อักษรขีดเส้นใต้ในชื่อเมนู (แสดงเมนูนั้นๆ)
อักษรที่ขีดเส้นใต้ในชื่อคำสั่งบนเมนูที่เปิด (ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ)
ปุ่ม F10 (เปิดแถบเมนูในโปรแกรมที่กำลังใช้งาน)
ลูกศรขวา (เปิดเมนูถัดไปทางขวา หรือเปิดเมนูย่อย)
ลูกศรซ้าย (เปิดเมนูถัดไปทางซ้าย หรือปิดเมนูย่อย)
ปุ่ม F5 (อัปเดทหน้าต่าง)
กดปุ่ม SHIFT ขณะที่ใส่แผ่นซีดีรอมลงในไดรฟ์ซีดีรอม (ยกเลิกการเล่นซีดีรอมอัตโนมัติ)
CTRL+SHIFT+ESC (เปิด Task Manager)

Intel สนับสนุน Google Chrome OS

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิ้ลได้แสดงรายชื่อของพันธมิตรที่เข้าร่วมในโปรเจกต์ยักษ์ที่ทำเอาไมโครซอฟท์หนาวๆ ร้อนๆ นั่นก็คือ google Chrome OS ซึ่งปรากฎว่า บริษัทผู้ผลิตพีซีหลายรายที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์นี้ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิป ARM แต่ที่หลายคนแปลกใจมากๆ ก็คือ ในรายชื่อดังกล่าวกลับไม่ยักมี Intel อยู่ในนั้นด้วย

Sundar Pichai จาก Google กล่าวว่า รายชื่อที่นำมาเปิดเผยนั้นยังไม่สมบูรณ์ ยังมีอีกหลายบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งภายหลังได้มีการสอบถามไปยังอินเทล (Intel) ถึงเรื่องดังกล่าว ตัวแทนของบริษัทได้ยืนยันกลับมาแล้วว่า อินเทลมีความยินดีที่จะร่วมโปรเจ็กต์นี้กับทางกูเกิ้ล นอกจากนี้ แหล่งข่าวภายในอินเทลยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ทางบริษัทชื่นชอบโปรเจ็กต์ Chrome OS "เรามีความร่วมงานกับกูเกิ้ลอยุ่หลายโปรเจกต์ ซึ่ง Chrome OS ก็เป็นหนึ่งในนั้น" ตัวแทนของทางบริษัทกล่าว "เรารู้สึกยินดีที่กูเกิ้ลทำโครงการนี้"
Michael Chen ผู้อำนวยการกลุ่มฝ่ายขายชิปโมบายในภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคกล่าวว่า "เราไม่กังวลว่า โปรเจ็กต์ของกูเกิ้ลจะเป็นคู่แข่งของ Moblin (ซอฟต์แวร์โอเอสของอินเทล) แผนในระยะยาวของทางบริษัทคือ การผลิตชิปที่แตกต่างกันตามโอเอสที่ใช้ ยิ่งมีการแข่งขันกันมากเท่าไร ยิ่งทำให้เรามีนวตกรรมดีๆ ให้กับผู้บริโภค"
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้งสองย่อมเกิดขึ้นอยู่แล้ว เนื่องจาก เป้าหมายแรกของ Chrome OS ก็คือ การเป็นระบบปฏิบัติการให้กับเน็ตบุ๊ก ซึ่งใช้ชิป Atom ของ Intel อยู่แล้วนั่นเอง หากแผนการของกูเกิ้ลเป็นจริง การเปลี่ยนชีวิตผู้ใช้ให้ขึ้นมาอยู่บนออนไลน์มากขึ้น การใช้โอเอสที่จัดการสิ่งต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ของตนเองก็จะลดลง

การเพิ่มความเร็วให้กับ Win XP

การเพิ่มความเร็วให้กับ Win XP อีกวิธีคือ
ให้ไปปรับแก้ดังนี้ คลิกขวาที่ไอคอน My Computer
--> Properties
--> Advance
--> Performance
--> เลือก Setting
ติกเลือก Adjust for best performance และติกออกใน List 3 อันล่างสุด เริ่มจาก Use common task in folders และอีก 2 อันล่างสุด

การลบประวัติการใช้งานเอกสารต่างๆ

การลบประวัติการใช้งานเอกสารต่างๆ ใน Win XP
ที่เมนู Start จะมีการจำประวัติการใช้งานเอกสารในโฟลเดอร์ My Recent Document ซึ่งจะมีทั้งหมด 15 เอกสารล่าสุด เพื่อความปลอดภัยจากผู้ใช้คนอื่น
เราสามารถลบประวัตินี้ได้โดยการคลิกขวาที่ Start
---> Properties คลิกแท๊ป Start Menu

---> Customize แท๊ป Advance ให้คลิกปุ่ม Clear List
ถ้าใช้ Classic Start Menu ให้คลิก Clear

เทคนิคการ Reset Bios(CMOS) Password

เทคนิคการ Reset Bios(CMOS) Password ในบางครั้งหากว่าลืมรหัสผ่านหรือ Password ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตั้งค่าต่างๆ ใน Bios ได้ เรามาดูวิธีแก้กัน แต่เครื่องที่จะแก้ได้นั้นต้องไม่มีการติดตั้ง Password ในส่วนของ Supervisor คือสามารถบู๊ทเข้า Windows หรือยังสามารถเข้า Dos Mode ได้ วิธีการคือ
- ให้เข้าสู่ Dos Mode โดยการกด F8 ค้างไว้แล้วเลือก Safe Mode Command Prompt Only ที่ C:\> ให้พิมพ์ debug กด Enter

- จะเห็นเครื่องหมายขีดกลาง (-) ให้พิมพ์ o 70 2 e (โอ เจ็ดศูนย์ สองอี) แล้วกด Enter
- จะเห็นเครื่องหมายขีดกลาง (-) อีก ให้พิมพ์ o 71 ff (โอ เจ็ดหนึ่ง เอ็ฟเอ็ฟ) แล้วกด Enter
- จะเห็นเครื่องหมายขีดกลาง (-) อีกครั้งให้พิมพ์ Q แล้วกด Enter ก็จะกลับเข้าสู่C:\>
ในกรณีติด Password หมดทั้งส่วนของ System หรือ Supervisor คือไม่สามารถบู๊ทเข้าเครื่องคอมได้เลย และไม่สามารถเข้าสู่ Bios ต้องการทำการถอดถ่าน CMOS หรือ ซ็อต Jumper เพื่อ Reset ค่าใหม่หมด

ข้อความต้อนรับใน Windows XP

การสร้างข้อความต้อนรับใน Windows XP โดยไปปรับแก้ที่
-HKEY_LOCAL_MACHINE_\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\winlogon
ให้ไปสร้างเพิ่ม ในส่วนของ LegalNoticeCaption
---> ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Windows และ LegalNoticeText
---> ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Windows ขอให้ทำงานให้สนุก

วิธีตรวจสอบรหัสบัตรประชาชน

การสมัครสมาชิกของหลายๆ เว็บไซต์บังคับให้กรอกเลขที่บัตรประชาชน เช่น เว็บขายของ, เว็บประเภทเกมส์ออนไลน์, ฯลฯ ก็พลันคิดไปว่าต้องตรวจสอบโดยการติดต่อฐานข้อมูลของก ระทรวงมหาดไทยเลยเหรอนี้อันที่จริงมันไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด ในการตรวจสอบเลขที่บัตรประชาชนนั้นทำได้โดยการใช้ Check Digit หรือการตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้ตัวเลขหลักสุดท้ายใน การตรวจสอบ Algorithm ของวิธีการใช้ Check Digit มีดังนี้
1. ตัวเลขบนบัตรประชาชนจะมีทั้งหมด 13 หลัก นำเลขใน 12 หลักแรก มาคูณกับเลขประจำตำแหน่ง (เลขประจำหลักได้แก่ 13 บวก 1 ลบด้วยตำแหน่งที่) จะได้ตัวเลขประจำตำแหน่งดังนี้
ตำแหน่งที่เลขประจำตำแหน่งการคำนวณ
11313+1-1
21213+1-2
31113+1-3
41013+1-4
5913+1-5
6813+1-6
7713+1-7
8613+1-8
9513+1-9
10413+1-10
11313+1-11
12213+1-12

** 13 ที่ใช้ในการคำนวณคือจำนวนตัวเลขทั้งหมดที่ต้องการตรวจสอบ
2. หลังจากนั้นเอาผลคูณของทั้ง 12 หลักมารวมกัน แล้ว modulation (การหารเอาเศษ) ด้วย 11
3. เอาเศษที่ได้จากการหารในข้อ 2 มาลบด้วย 11 เท่านี้ก็ได้เลขที่เป็น Check Digit แล้ว (ถ้าผลจากข้อ 2 ได้ 10 ให้เอาเลขหลักหน่วยเป็น Check Digit ก็คือ 0 นั้นเอง)
ตัวอย่าง 1-2345-67890-12-9นำไปคูณเลขประจำตำแหน่ง (1*13)+(2*12)+(3*11)+(4*10)+(5*9)+(6*8)+(7*7)+(8*6 )+(9*5)+(0*4)+(1*3)+(2*2) = 352modulation 11 .... 352%11= 0
นำ 11 ตั้งแล้วลบด้วย 0 11 - 0 = 11 เอาเลขหลักหน่วย ดังนั้น Check Digit คือ 1นี้มันเลขที่บัตรประชาชนไม่ถูกต้องนี้ ที่ถูกต้องคือ 1-2345-67890-12-1
โดยหลักการคำนวนนี้ สามารถใช้กับเลข 10 หลักอย่างเลขที่บัญชีได้อีกด้วย
ตัวอย่าง 123-4-56789-6
นำไปคูณเลขประจำตำแหน่ง (1*10)+(2*9)+(3*8)+(4*7)+(5*6)+(6*5)+(7*4)+(8*3)+( 9*2) = 210 modulation 8 .... 210%8= 2นำ 8 ตั้งแล้วลบด้วย 2.... 8 - 2 = 6 เอาเลขหลักหน่วยดังนั้น Check Digit คือ 6นี้มันเลขที่บัญชีที่ถูกต้อง

Folder Options หาย!!!

มัลแวร์อย่างพวก Adware, Spyware, Browser Hijacker และ Trojan บางตัวจะไม่ยอมให้ผู้ใช้เปลี่ยน Folder Options ในกรณีนี้ แนะนำให้คุณใช้โปรแกรมสแกนตรวจสอบให้เรียบร้อยเสียก่อน
หลังจากสแกนเรียบร้อยแล้ว แต่ Folder Options ยังไม่ปรากฏขึ้นมาอยู่ดี เป็นไปได้ว่า พวกมันเข้าไปกำหนดค่าใน Registry ให้ยกเลิก (disable) ตัวเลือกนี้ออกไป สำหรับวิธีแก้ไขให้กลับคืนมาดังเดิมทำได้ดังนี้
1. เปิดโปรแกรม Registry Editor (คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์ regedit คลิกปุ่ม OK)
2. ในกรอบด้านซ้ายคลิกเข้าไปที่
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\policies\Explorer
3. กรอบด้านขวาหากพบว่าคีย์ NoFolderOptions ถูกกำหนดค่าเป็น 1 ให้ดับเบิ้ลคลิกบนคีย์ดังกล่าว แล้วแก้กลับเป็น 0
4. ปิดโปรแกรม Registry Editor



นอกจากเหล่ามัลแวร์ต่างๆ แล้ว โปรแกม TweakUI หรือยูทิลิตี้สำหรับแอดมินบางตัวจะมีการเข้าไปกำหนดไม่ให้แก้ไข Folder Options ได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ คุณจะพบคีย์ NoFolderOptions ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่พบว่า มีคีย์นี้อยู่ใน Registry หรือมันได้รับการกำหนดให้เป็น 0 อยู่แล้ว นั่นแสดงว่า โมดูลในส่วนจัดการ Folder Options ของ Windows XP ถูกทำลาย หรือหายไป ซึ่งวิธีแก้ไขจะยุ่งยากกว่านี้มาก ยังไงก็เอาใจช่วยให้คุณแก้ไขกลับคืนมาได้สำเร็จนะครับ

เคล็ดลับเลือก เน็ตบุ๊ค เพื่อการเรียนรู้

คอมพิวเตอร์กับเด็กในยุคไอที ผู้ใหญ่หลายคนอาจมองในมุมของเด็กกับการเล่นเกม อินเทอร์เน็ตและสื่ออันตรายต่างๆ แต่ทว่า “เน็ตบุ๊ค”กลับกลายเป็นทางเลือกหนึ่งของเด็กๆที่อาจตอบโจทย์ในการเรียนการสอนมากกว่าการเล่นเกมเป็นไหนๆ ซึ่งเน็ตบุ๊คจะเป็นเครื่องที่สร้างขึ้นเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง7-12ปีโดยเฉพาะ
ส่วนเคล็ดลับในเรื่องของการเลือกซื้อเน็ตบุคนั้น สิ่งที่ผู้ปกครองควรคำนึงมีดังนี้
1.“ความทนทาน” เน็ตบุ๊คสำหรับเด็กต้องมีความแข็งแรงเนื่องจาก หากเด็กทำตกหล่น เน็ตบุ๊คต้องไม่มีปัญหาในเรื่องของการกระแทก
2.“โปรแกรม” โปรแกรมสำหรับเด็กที่ควรคำนึงนั้น มี 5 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ
2.1 Trusted Content (บทความเชิงวิชาการ)
2.2 วิดีทัศน์
2.3 Internet Resources
2.4 Reference Tools (พจนานุกรมต่างๆ)
2.5Interactive Resource (Discovery Video, Encarta Interactive, Encarta Kids&Games Dynamic Timeline)
3.“รูปทรง” ลักษณะการใช้งานที่ต้องมีรูปทรงกะทัดรัด มีน้ำหนักเบา (เด็กๆสามารถถือเองได้) สีสันตัวเครื่องสวยงาม คีย์บอร์ดมีปุ่มกดที่ออกแบบมาใช้งานได้ง่าย กล่าวคือ ปุ่มมีลักษณะนูนขึ้นมาเหมือนทรงพีระมิด

วิธีเสียบปลั๊ก Notebook‏ ที่ถูกต้อง

ในช่วงแรกๆ ที่ใช้โน้ตบุ๊กก็อาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?
คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผมก็หาวิธีแก้ไขบ้าง
เพื่อนหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอด ผมเอ๊ะใจขึ้นมา เลยเปิดคู่มือโน้ตบุ๊กที่ผมเพิ่งได้มาใหม่ดู นั่งอ่านสักพัก ก็ถึง บ้างอ้อ จนได้ว่า สิ่งที่เราทำมานั้น ไม่ถูกต้องเลยครับ
มิน่า เสียบยี่ห้อไหน ก็ไฟแลบตะแลบแป๊บหมด.. พาลเอาใจหายว่าไฟจะช็อตได้
ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับ ในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก ที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก ่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ ตบุ๊ก อันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง
ผมเลยลองดูซะเลยครับ ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้น เลย โอ้! นี่แหละหนาาา..นิสัยไม่ชอบอ่านคู่มือ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนที่เกิดอาการนี้ทั้งหมด ทุกรายแฮปปี้ดีแทคมากๆ ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบครับ ใครที่ทราบแล้วก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ จะได้เสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ได้ถูกต้องเสียที ใครใช้โน้ตบุ๊กอยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ

วิธีกู้ Windows XP แบบไม่ต้องลงใหม่

ถ้าวินโดวส์มีป้ญหาไม่สามารถบู๊ตขึ้นภาพ Windows XP คุณๆจะมีวิธีของตนเอง เช่น เอาไฟล์ที่ ghost ไว้มาใช้ แต่ก็ปัญหาคือ ไฟล์ที่ได้ไม่ใช่ข้อมูลปัจุบัน หรือ format ลงวินโดวส์ใหม่ชึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยต้องลงโปรแกร มใหม่เป็นสิบตัว ยังต้องเสียเวลา Crack อีก ข้อมูลที่คุณทำไว้ก็หายหมด ผมมีวิธีการกู้แบบง่ายๆ ไปหาวิธีแบบยาก แล้วแต่เหตุการณ์ และสาเหตุ ซึ่งจะมีเทคนิคดังนี้

เทคนิคที่ 1 กู้แบบง่ายๆ
-สาเหตุ : ปกติคุณๆ มักชอบติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ เพิ่มเติม ผลปรากฎว่าเมื่อติดตั้งแล้วพอบู๊ตใหม่กลับบู๊ตไม่ขึ้น สาเหตูอาจมาจากโปรแกรมที่ติดใหม่ ติดตั้งไฟล์ระบบตัวเก่าทับตัวใหม่ ทำให้วินโดวส์ไม่รู้จักไฟล์ระบบ เลยทำให้เกิดหน้าจอดำค้างไม่บู๊ตเข้าหน้าจอเดสก์ทอป
-วิธีแก้ไข : อาจจะใช้วิธี System Restore ใน Safe Mode โดยกดปุ่ม F8 ค้างไว้ ขณะบู๊ตเครื่องใหม่ แล้วเลือกไปที่หัวข้อ Safet Mode กู้วันที่ย้อนหลังครั้งล่าสุดที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกร ม หรือจะให้สะดวกกว่านี้ก็ให้เลือกหัวข้อ "Last Know Good Configuration" ก็จะกู้ระบบครั้งล่าสุดให้ทันที ทำให้บู๊ตเข้าวินโดว์ส ได้ตามเดิม
เทคนิคที่ 2 ก๊อปปี้ไฟล์ระบบ 3 ตัวทับไฟล์ระบบเดิม
-สาเหตุ :ถ้าวินโดวส์ไม่บู๊ตหรือรันหน้าต่าง Start up...Windows XP เลย อาจเป็นที่ไฟล์ Boot Sector ของไฟล์ระบบเสีย หรือมีปัญหาขัดแย้งกับไฟล์ ntldr หรือ ntdetect.com ทำให้บู๊ตไม่ขึ้นภาพ
-วิธีแก้ไข :ให้ก๊อปปี้ไฟล์ระบบจากเครื่องอื่นที่ลง Windows XP เหมือนกันหรือคุณจะก๊อปปี้ไฟล์ระบบที่เครื่องคุณเอาไ ว้ก่อนที่เครื่องจะมีปัญหาก็ได้ ด้วยใช้คำสั่ง xcopy ผ่านโหมด command line โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ 1. ก๊อปปี้ 3 ไฟล์ข้างนี้ โดยใส่แผ่นเปล่า (1.44MB)ลงในไดรว์ a: เมื่อก๊อปปี้เสร็จเอาเก็บไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป
2.บู๊ตเครื่องใหม่ แล้วกดปุ่ม F8 ค้างไว้ เพื่อไปหน้าจอ Safe Mode
3.เอาแผ่นดิสก์ที่ทำไว้แล้วตามข้อ 1 ใส่ไปที่เครื่อง ออกไปที่ DOS Prompt แล้วพิมพ์คำสั่งก๊อปปี้ไฟล์ตามข้างล่างนี้

4.กดปุ่ม enter ตามหลังคำสั่ง 5. บู๊ตเครื่องใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถเข้าหน้าเดสก์ทอปของวินโดวส์ได้ตามเดิม
เทคนิคที่ 3 ซ่อมวินโดวส์ ด้วยแผ่นบู๊ต Boot CD Rom
-สาเหตุ : ปัญหานี้ส่วนใหญ่ สืบเนื่องจากการติดตั้ง Patch file ตัวใหม่ๆ แล้วไม่สามารถรองรับไฟล์ระบบของวินโดวส์หรือก็อปปี๊ไ ฟล์ .dll, .vdx, .inf ผิดเวอร์ชั่น หรือเผลอลบไฟล์ระบบบางตัว ก็เป็นสาเหตุได้ ฉะนั้นหากแก้ด้วยวิธีที 1,2 ไม่หาย ก็ต้องใช้วิธีที่ 3 ซ่อมแซมไฟล์ระบบใหม่ แทนที่จะเสียเวลาติดตั้งใหม่ วิธีนี้ก็จะช่วยย่นเวลาให้น้อยลง
-วิธีแก้ไข : เตรียมแผ่นบู๊ต CD Windows (แผ่นติดตั้งวินโดวส์) ใส่ใน CD-ROM แล้วบู๊ตเครื่องใหม่ จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1.เมื่อเข้าหน้าจอ Windows to Setup หน้าแรก ให้คุณกด Enter ผ่านขั้นตอนนี้ไป
2.จากนั้นก็จะเข้าหน้าจอ windows XP Lincesing Agreement หน้าที่สอง กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับการติดตั้งใหม่ 3.เมื่อเข้าหน้าจอการติดตั้ง Windows XP Pro..Setup เลือกไดรฟ์ที่ติดตั้ง แล้วกดตัว R เพื่อซ่อมแซ่มไฟล์ที่สูญหายให้กลับคืนมาดังเดิม เมือเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรมต่างๆที่ติดตั้งไปก็ย ังคงใช้ได้เหมือนเดิมไม่ต้องติดตั้งใหม่ให้เสียเวลา ปล. สำหรับผู้ที่ใช้ Harddisk แบบ SATA ในตอนบู๊ตแผ่นติดตั้ง Windows ให้กด F6 เพื่อติดตั้งไดรว์เวอร์ SATA ก่อนเข้าขั้นตอนที่ 1 ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นวินโดวส์จะมองไม่เห็น Harddisk




Lock folder โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม

สำหรับวิธีการ ล๊อก Folder ที่เราอยากจะเก็บไว้เป็นความลับไม่ต้องการให้คนอื่นม าเปิดดูไฟล์ใน Folder ของเราวันนี้ขอเสนอวิธีการ ล๊อก Folder โดยการใช้ Bat file นะครับวิธีการก็ง่ายๆครับให้คุณสร้าง Folder ที่คุณต้องการจะเก็บไฟล์นะครับ ในที่นี้ผมขอ สร้างเป็น ชื่อ Comfixclub นะครับ วิธีการสร้าง Folder ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ผมไม่ขอพูดถึงนะครับจากนั้นให้คุณเปิด Notepad แล้วพิมพ์ หรือ copy ของผมไปก็ได้ แล้วให้คุณปลี่ยน คำว่า Comfixclub เป็นชื่อ Folder ของคุณ
รูปแบบของการเขียนไฟล์ปลดล๊อก.batren ชื่อfolder {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} ชื่อfolder.ก็จะได้ren Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} Comfixclub*****หมายเหตุ ชื่อ Folder ห้ามแว้นวรรค นะครับ เช่น New Folder เนี่ยะไม่ได้นะครับ เพราะว่า ใน command มันไม่รู้จัก วรรค ครับมันจะหาแค่ Folder ที่ชื่อว่า New เท่านั้นจากนั้นให้คุณ ไปที่ FileSave As ตั้งชื่อไฟล์ครับ ของผมผมจะตั้งชื่อว่า Key.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับแล้วให้คุณกลับมาที่ Notepad อีกครั้งให้แก้โค้ดเป็นรูปแบบดังนี้ren ชื่อfolder ชื่อfolder. {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}ระหว่างชื่อfolder ให้ เคาะหนึ่งน่ะครับแล้วก็ตามด้วยชื่อfolderคุณจะได้โค้ดเป็นren Comfixclub Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}จากนั้นให้คุณ ไปที่ File Save As ตั้งชื่อไฟล์ครับของผมผมจะตั้งชื่อว่า Lock.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับเมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.batเมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.batผมได้แนบไฟล์ที่ผมทำไว้มาให้แล้วด้วยนะครับ สำหรับคนที่ไม่อยากเขียนเอง แต่อยากลอกโฟเดอร์ไม่ให้คนอื่นเข้ามาคุณก็แค่เอาไฟล์ ไปเก็บในโฟเดอร์ Comfixclub ของผมเท่านั้นเองเมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.batเมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat

8 วิธีในการดึงพื้นที่ฮาร์ดดิสก์คืนมา

เทคนิคหนึ่งที่นำมาใช้เสมอกรณีที่เริ่ม Setup คอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานเองก็คือ จัดแบ่งพาร์ติชั่นให้เหมาะสม โดยแยกให้เป็นพาร์ติชั่นสำหรับระบบปฏิบัติการ พาร์ติชั่นสำหรับ Application และสำหรับ Cache Drive หรือ Temp Drive และเมื่อใดก็ตามที่เห็นผู้ใช้งานท่านใด บ่นว่าไม่มีพื้นที่ในการเก็บข้อมูล เราว่าปัญหาแท้จริงนั้นไม่ใช่ว่าพื้นที่ทั้งหมดในฮาร ์ดดิสก์เต็มไปด้วยข้อมูล แต่ปัญหาจริงๆ ก็คือว่า การขาดการจัดการที่ดีมากกว่า แม้แต่ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ก็ต้องการการจัดการกรณีนี้กล่าวถึงเฉพาะในพาร์ติชั่นของระบบปฏิบัติการแ ละ Application เท่านั้น ส่วนตัวแล้ว กำหนดให้มีขนาดไม่เกิน 800เมกะไบต์ เพราะถือว่าการติดตั้งซอฟต์แวร์ Application ในปริมาณที่เกินกว่า 1 เมกะไบต์นั้น เป็นการสิ้นเปลืองและการไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จร ิง รวมไปถึงการจัดการที่ไม่ดีด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ตาม พื้นที่ 800 เมกะไบต์ของผมก็ยังเต็มอยู่บ่อย ด้วยเหตุนี้ผมจึงเรียบเรียง กลวิธีง่ายๆในการดูแลพาร์ติชั่นดังกล่าวให้สะอาดและม ีพื้นที่ว่างประมาณ 30 - 50 เมกะไบต์เสมอ ทำไมต้องมีพื้นที่ว่าง เพราะต้องว่างไว้สำหรับข้อมูลแคชของ Netscape , Internet Explorer , ไฟล์ที่มีผู้ส่งให้ทาง E-mail และข้อมูลที่ต้องถูกเก็บโดยอัตโนมัติในพาร์ติชั่นเดี ยวกับ Application ไม่สามารถแยกเก็บต่างหากได้
1. Recycles Bin คือ สถานที่แรกที่ควรพิจารณาจัดการ ปกติถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขนาดของถังขยะจะมีความจุ 1/10 เท่าของพื้นที่พาร์ติชั่น กรณีของฮาร์ดดิสก์ 1 กิกะไบต์ ก็จะมีถังขยะขนาด 100 เมกะไบต์ หากไม่จัดการให้เหมาะสม ปล่อยให้ถังขยะเต็มอยู่ตลอดเวลา ก็จะเสียพื้นที่ 100 เมกะไบต์ไปโดยเปล่าประโยชน์ 2. การจัดการกับข้อมูลใน Disk Cache ของบราวเซอร์ เช่น Netscape , Internet Explorer ข้อดีของการมีข้อมูลเหล่านั้นไว้ก็คือ ประหยัดเวลาในการดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ต และใช้ดูขณะ Offline ได้ แต่ข้อเสียก็คือใช้พื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ ทางที่ดีควร "ล้างแคช" โดยการใช้ฟังก์ชั่น Clear Cache ของบราวเซอร์ที่ใช้งาน กรณีของ Netscape นั้น ไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตอยู่ใน C:\Program File\Netcape\…\cache ส่วนกรณีของ Internet Explorer นั้นอยู่ใน C:\Windows\Teporary Internet File\ พื้นที่ที่ใช้ในการเก็บไฟล์เหล่านั้นเริ่มจากไม่กี่เ มกะไบต์ไปจนหลายสิบเมกะ ไบต์ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้ใช้งานก็ควรลบออก3. การจัดการกับไฟล์ที่ส่งแนบมากับจดหมายอิเลคทรอนิคส์ และไฟล์ข้อมูลที่ดาวน์โหลดเข้าเก็บไว้โดยโปรแกรมประเ ภท Offline Web Browser สำหรับไฟล์ที่แนบมากับจดหมายอิเลคทรอนิคส์นั้น อาจต้องการใช้งานระยะเวลาสั้นๆ หลังจากต้องดำเนินการขั้นต่อไปคือ ตัดสินใจว่าจะสำรองข้อมูลไว้ หรือลบทิ้ง หรือนำไปจัดเก็บในพาร์ติชั่นสำหรับข้อมูล ส่วนไฟล์ HTMLและรูปภาพที่ดาวน์โหลดโดย Offline Web Browser ถ้าหากต้องการเก็บไว้อ้างอิงระยะยาว ก็ควรย้ายไปยังพาร์ติชั่นสำหรับข้อมูลเช่นกัน หากไม่ต้องการใช้ก็ลบทิ้ง พื้นที่ว่างที่ได้เพิ่มขึ้นนั้น หลากหลายตามสัดส่วนความรกของไฟล์ สำหรับไฟล์ที่รับจาก e-mail กรณีที่ใช้งาน Eudora พบว่าบางครั้งไฟล์ขนาดใหญ่ และรับครั้งเดียวไม่สำเร็จ และเมื่อรับครั้งต่อไป ไฟล์นั้นจะถูกทิ้งไว้ และสร้างชื่อใหม่ขึ้นอีก ไฟล์ที่ใช้ได้คือไฟล์ที่สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นจึงควรตรวจสอบและกำจัดไฟล์ขยะทิ้งไป4. ไฟล์นามสกุล .tmp ใน C:\Windows\temp เป็นไฟล์ชั่วคราว (Temporary File)ที่ถูกสร้างขณะที่ใช้งาน Application ต่างๆ ถ้าหากการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยการเปิด-ปิดตามปกติ ไฟล์ชั่วคราวดังกล่าวจะถูกทำลายโดยอัตโนมัติเมื่อใช้ งานเสร็จ แต่ในกรณีที่วินโดวส์หยุดทำงานเพราะแฮงค์ ไฟล์ชั่วคราวดังกล่าวจะเหลืออยู่ และเมื่อเป็นปริมาณมากๆ ขนาดก็ใหญ่ตาม การกำจัดทำได้โดยใช้ยูทิลิตีส์ เช่น Norton Utility Space Wizard5. ทิ้งชิ้นส่วนที่ไม่ได้ใช้งานแต่ถูกติดตั้งลงไปเมื่อต ิดตั้งวินโดวส์ สำหรับวินโดวส์ภาษาไทย สิ่งที่ลบออกได้ก็คือ C:\Program File\Online Service จะสังเกตเห็นว่า Online Services ที่ให้มานั้นคือ ของ AT &T , CompuServe, AOL ซึ่งเป็น บริการที่หาไม่ได้ในประเทศไทย แต่ถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ ไม่มีตัวเลือกให้ว่าจะเลือกติดตั้งหรือไม่ติดตั้ง และไม่มีตัว Uninstall ที่มากับ Windows ด้วย การลบทำได้สองวีธีคือ ลบด้วยมือ โดยเข้าไปลบใน Windows Explorer หรือใช้ยูทิลิตีส์ในการ Uninstall เช่น Clean Sweep , Uninstall การทิ้งส่วนนี้ให้พื้นที่ว่างถึง 9 เมกะไบต์6. Application ที่แถมมากับวินโดวส์ แต่ไม่ได้ใช้งาน กรณีนี้ควรตรวจสอบก่อนลบว่าต้องการใช้อยู่หรือไม่ เช่น Hyper Terminal , Word Pad Thai , Windows Messaging , Paint ,ทำให้พื้นที่ว่างลงอีกหลายเมกะไบต์ได้เช่นกัน การเอาออกทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน Add/Remove Program ใน Control Panel7. ไฟล์สำหรับติดตั้งระบบปฏิบัติการ แต่หลงเหลือไว้ในฮาร์ดดิสก์หลังจากติดตั้งวินโดวส์เส ร็จเรียบร้อย พบในบางกรณี เช่น Notebook ยี่ห้อ Toshiba เมื่อซื้อมานั้น มักจะมาพร้อมกับวินโดวส์ 95 ซึ่งถูกติดตั้งเรียบร้อย แล้ว แต่ไฟล์สำหรับติดตั้งนั้นจะอยู่ใน C:\Windows\Option ซึ่งมีขนาดความจุ 60 - 90 เมกะไบต์ ทั้งนี้ประโยชน์ของการมีไฟล์ดังกล่าวไว้คือ กรณีที่วินโดวส์เสียหาย ก็สามารถติดตั้งจากตัวต้นฉบับที่ถูกคัดลอกไว้ดังกล่า วได้ แต่ก็เสียพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ไป ทางที่ดีควรพิจารณาสำรองไว้ในแผ่นฟล๊อปปี้ หรือหากเป็นการใช้งานคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย (Workgroup) ก็ควรขอพื้นที่ในเซอร์เวอร์ เพื่อฝากไฟล์ดังกล่าว หรือหากไม่สามารถลบทิ้ง ไม่สามารถฝากไฟล์ไว้ที่เครื่องอื่นได้ แนะนำให้ลบไฟล์ชื่อ wowkit.exe ซึ่งมีขนาดถึง 19 เมกะไบต์ออก เพราะเป็นไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานกันตามปกติเช่นเดียวกัน8. ไล่ดูแต่ละโฟลเดอร์ทั้งใหญ่และย่อยถ้าทำได้ บางทีอาจจะเหลือขยะที่ทำให้เราจัดการได้บ้าง เช่น ไฟล์ตกค้างใน Eudora , ไฟล์ตกค้างจากการใช้ Offline Browser เช่น Teleport หรือไฟล์ที่เราอาจจะค้นพบได้เพิ่มเติมว่า มันไม่มีประโยชน์ และเปลืองพื้นที่ฮาร์ดดิสก์โดยไม่จำเป็น

รวมคำสั่ง Run ที่ใช้ทั้งหมด

เรียกโปรแกรม Accessibility Options —> access.cpl
เรียกโปรแกรม Add Hardware —> hdwwiz.cpl
เรียกโปรแกรม Add/Remove Programs —> appwiz.cpl
เรียกโปรแกรม Administrative Tools control —> admintools
ตั้งค่า Automatic Updates —> wuaucpl.cpl
เรียกโปรแกรม Bluetooth Transfer Wizard —> fsquirt
เรียกโปรแกรม เครื่องคิดเลข (Calculator) —> calc
เรียกโปรแกรม Certificate Manager —> certmgr.msc
เรียกโปรแกรม Character Map —> charmap
เรียกโปรแกรม ตรวจสอบดิสก์ (Check Disk Utility) —> chkdsk
เรียกดูคลิปบอร์ด (Clipboard Viewer) —> clipbrd
เรียกหน้าต่างดอส (Command Prompt) —> cmd
เรียกโปรแกรม Component Services —> dcomcnfg
เรียกโปรแกรม Computer Management —> compmgmt.msc
เรียกดู/ตั้ง เวลาและวันที่ —> timedate.cpl
เรียกหน้าต่าง Device Manager —> devmgmt.msc
เรียกดูข้อมูล Direct X (Direct X Troubleshooter) —> dxdiag
เรียกโปรแกรม Disk Cleanup Utility —> cleanmgr
เรียกโปรแกรม Disk Defragment —> dfrg.msc
เรียกโปรแกรม Disk Management —> diskmgmt.msc
เรียกโปรแกรม Disk Partition Manager —> diskpart
เรียกหน้าต่าง Display Properties control desktop —> desk.cpl
เรียกหน้าต่าง Display Properties
เพื่อปรับสีวินโดวส์ —> control color
เรียกดูโปรแกรมช่วยแก้ไขปัญหา (Dr. Watson) —> drwtsn32
เรียกโปรแกรมตรวจสอบไดร์ฟเวอร์ (Driver Verifier Utility) —> verifier
เรียกดูประวัติการทำงานของเครื่อง (Event Viewer) —> eventvwr.msc
เรียกเครื่องมือตรวจสอบไฟล์ File Signature Verification Tool —> sigverif
เรียกหน้าต่าง Folders Options control —> folders
เรียกโปรแกรมจัดการ Fonts —> control fonts
เปิดไปยังโฟลเดอร์ Fonts (Fonts Folder) —> fonts
เรียกเกม Free Cell —> freecell
เปิดหน้าต่าง Game Controllers —> joy.cpl
เปิดโปรแกรมแก้ไข Group Policy (ใช้กับ XP Home ไม่ได้) —> gpedit.msc
เรียกโปรแกรมสร้างไฟล์ Setup (Iexpress Wizard) —> iexpress
เรียกโปรแกรม Indexing Service —> ciadv.msc
เรียกหน้าต่าง Internet Properties —> inetcpl.cpl
เรียกหน้าต่าง Keyboard Properties —> control keyboard
แก้ไขค่าความปลอดภัย (Local Security Settings) —> secpol.msc
แก้ไขผู้ใช้ (Local Users and Groups) —> lusrmgr.msc
คำสั่ง Log-off —> logoff
เรียกหน้าต่าง Mouse Properties control mouse main.cpl
เรียกหน้าต่าง Network Connections control netconnections —> ncpa.cpl
เรียกหน้าต่าง Network Setup Wizard —> netsetup.cpl
เรียกโปรแกรม Notepad —> notepad
เรียกคีย์บอร์ดบนหน้าจอ (On Screen Keyboard) —> osk
เรียกหน้าต่าง Performance Monitor —> perfmon.msc
เรียกหน้าต่าง Power Options Properties —> powercfg.cpl
เรียกโปรแกรม Private Character Editor —> eudcedit
เรียกหน้าต่าง Regional Settings —> intl.cpl
เรียกหน้าต่าง Registry Editor —> regedit
เรียกโปรแกรม Remote Desktop —> mstsc
เรียกหน้าต่าง Removable Storage —> ntmsmgr.msc
เรียกหน้าต่าง Removable Storage Operator Requests —> ntmsoprq.msc
เรียกดู Policy ที่ตั้งไว้ (ใช้กับ XP Home ไม่ได้) —> rsop.msc
เรียกหน้าต่าง Scanners and Cameras —> sticpl.cpl
เรียกโปรแกรม Scheduled Tasks control —> schedtasks
เรียกหน้าต่าง Security Center —> wscui.cpl
เรียกหน้าต่าง Services —> services.msc
เรียกหน้าต่าง Shared Folders —> fsmgmt.msc
คำสั่ง Shuts Down —> shutdown
เรียกหน้าต่าง Sounds and Audio —> mmsys.cpl
เรียกเกม Spider Solitare —> spider
แก้ไขไฟล์ระบบ (System Configuration Editor) —> sysedit
แก้ไขการตั้งค่าระบบ (System Configuration Utility) —> msconfig
ตรวจสอบระบบด้วย System File Checker Utility (เริ่มทันที) —> sfc /scannow
ตรวจสอบระบบด้วย System File Checker Utility (เริ่มเมื่อบู๊ต) —> sfc /scanonce
เรียกหน้าต่าง System Properties —> sysdm.cpl
เรียกหน้าต่าง Task Manager —> taskmgr
เรียกหน้าต่าง User Account Management —> nusrmgr.cpl
เรียกโปรแกรม Utility Manager —> utilman
เรียกโปรแกรม Windows Firewall —> firewall.cpl
เรียกโปรแกรม Windows Magnifier —> magnify
เรียกหน้าต่าง Windows Management Infrastructure —> wmimgmt.msc
เรียกหน้าต่าง Windows System Security Tool —> syskey
เรียกตัวอัพเดตวินโดวส์ (Windows Update) —> wupdmgr
เรียกโปรแกรม Wordpad —> write

วิธีการปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที

ปกติเวลาที่เราจะปิดเครื่องและจบการทำงานออกจากวินโด วส์ เราจะไปที่ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off หรือไม่ บางคนก็อาจจะกดปุ่ม Power ตรงเคสหรือซีพียู(บางคนจะเข้าใจอย่างนี้) เพื่อปิดเครื่อง แต่บางคนก็ถอดปลั๊กเลยก็มี (ซึ่งวิธี shutdown เครื่องแบบหลังนี้ ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้นะครับ เพราะจะเป็นอันตรายต่อฮาร์ดแวร์ในเครื่องโดยเฉพาะฮาร ์ดิสก์ไดรว์ ได้นะครับ)และจากวิธีการปิดเครื่อง shutdown เครื่องแบบตามวิธีการไปที่ ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off นั้น วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที มาฝากกันครับวิธีการปิดเครื่อง ชัตดาวน์วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
ให้กดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager หรือจะไปคลิกขวาที่ Task Bar (บาร์ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอนั่นเอง) > เลือกเมนู Task Manager ก็ได้เช่นกัน


จากนั้นไปคลิกที่เมนู Shutdown > เลื่อนhilight มาที่ Turn Off >
จากนั้นให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ และคลิกที่เมนู Turn Off ดังรูป เพียงเท่านี้คุณก็จะปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างไวและรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที แล้วหล่ะครับ ลองนำทริกนี้ไปใช้ดูนะครับ วิธีนี้ไม่เป็นอันตรายนะครับแต่ว่าผมก็ไม่ค่อยใช้เหม ือนกัน จะใช้ก็ต่อเมื่อรีบเร่งปิดเครื่องเท่านั้นครับ

โหลดเพลงเป็นล้านฟรี - ผ่าน Muziic

download โปรแกรมนี้คลิ๊กที่นี่
หลังจากที่เราเคยมีประสบการณ์กับ Kazaa, LimeWire, และ Napter ซึ่งใช้การ download เพลงแบบ peer-to-peer ตัวใหม่ที่จะพูดถึงในวันนี้คือ Muziic ซึ่งเป็น desktop application ที่ใช้งานได้กับ Windows XP, 2003 และ Vista โดยโปรแกรมนี้จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงเพลงได้เป็นล้าน ๆ เพลงเลยทีเดียว
Muziic ทำงานยังไง?



















ด้วย Muziic คุณสามารถฟังเพลงฟรีแบบออนไลน์ และมีเพลงให้เลือกฟังเป็นล้าน ๆ เพลง ซึ่งคุณจะไม่มีปัญหาใด ๆ เหมือนอย่าง Napsterเพราะ Muziic นั้นเป็นการใช้งานที่ถูกกฏหมาย 100% คุณสามารถใช้โปรแกรมตัวนี้เพื่อค้นหาเพลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงประเภทใด เก่าแค่ไหน
ในตอนแรกที่เริ่มใช้โปรแกรมนี้ใหม่ ๆ หน้าตาและการใช้งานโปรแกรมอาจจะยังไม่คุ้นเคยสำหรับคุณ แต่เมื่อคุณใช้ไปซักพัก คุณจะรู้สึกว่าโปรแกรมนี้สามารถใช้ค้นหา และฟังเพลงต่าง ๆ ได้สะดวกจริง ๆ
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือดาวน์โหลด Muziic โดยคลิ๊กที่นี่ จากนั้นให้ทำการ Install โปรแกรม แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นมาเพื่อใช้งาน
เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมา คุณจะเห็น Muziic player window ซึ่งเป็นขึ้นมาเพื่อให้คุณได้ scroll up และ down เพื่อเลือกแนวเพลงที่คุณต้องการ คุณสามารถเปิด genre หรือแนวเพลง และทำการดูรายชื่อเพลงต่าง ๆ ที่มีสมาชิกคนอื่น upload เข้าไปที่ Muziic ได้โดยการคลิ๊กที่ชื่อของเพลงนั่นเอง
เมื่อคุณเลื่อกแนวเพลง และเจอเพลงที่คุณต้องการจะฟัง คุณก็เพียงแค่คลิ๊กที่สัญลักษณ์ข้าง ๆ เพลงนั้น คุณก็สามารถเพิ่มเพลงนั้นเข้าสู่ play list ได้ทันที
เมื่อเลื่อกเพลงให้ไปอยู่ใน play list แล้วคุณก็สามารถ double click ที่เพลงเพื่อเริ่ม load และเล่นเพลงที่ต้องการได้ทันที
ตัวเดียวก็เกินพอ
Muziic มีตัว player ในการเล่นเพลงที่ให้คุณภาพเสียงได้ดีเยี่ยม คุณสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับความเร็ว internet ของคุณโดยการคลิ๊กที่ setting tab และเลือกคุณภาพของเสียงระหว่าง Standard และ HQ Stereo (แบบ HQ หรือ High Quality นั้นคุณจะต้องมี internet ความเร็วสูง)
นอกจากคุณภาพเสียงที่สามารถปรับให้ตรงกับความไว internet ของคุณแล้ว คุณสามารถเลือกฟังเพลงได้เป็นล้าน ๆ เพลงเลยทีเดียว นับว่าเป็นโปรแกรมที่น่าโหลดไปลองใช้ดูอย่างยิ่งครับ