LG วางขายมือถือ Optimus Z ในเกาหลี ควบคุมมือถือผ่านคอมได้

LG วางขายมือถือ Android แบรนด์ Optimus มาสองตัวคือ Optimus เฉยๆ กับ Optimus Q ทั้งสองตัวยังไม่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดได้มากนัก

วันนี้ LG ส่งมือถือตัวที่สาม Optimus Z ทำตลาดประเทศเกาหลีใต้ มันมาพร้อมกับซีพียู Qualcomm Snapdragon 1GHz, จอ 3.5" Hyper HD LCD (ไม่มีข้อมูลว่ามันเป็นยังไง) ความละเอียด 800x480, กล้อง 5 MP และรองรับระบบทีวีบนมือถือ T-DMB ของเกาหลีใต้ ระบบปฏิบัติการเป็น Android 2.1 ที่สัญญาว่าจะอัพเป็น 2.2 ภายในปีนี้

สเปกข้างต้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็มีกัน อันที่แปลกกว่าใครเขามีดังนี้

* แบตเตอรี่ 1,350mAh สองก้อน แต่ไม่มีข้อมูลว่าคุยได้นานแค่ไหน
* ฟีเจอร์ On Screen Phone แสดงอินเทอร์เฟซของมือถือบนหน้าจอคอม (ผ่าน Bluetooth หรือสาย USB) เพื่อให้ควบคุมมือถือจากคอมพิวเตอร์ได้ รวมถึงสามารถลากเอกสารไปใส่มือถือได้จากอินเทอร์เฟซนี้เลยโดยตรง
* ฟีเจอร์ Drag & Shake ให้เจ้าของ Optimus Z สองคนสามารถแลกไฟล์กันได้แค่เอามือถือมาเขย่าๆ กัน

Optimus Z มาพร้อมกับแอพพลิเคชันพรีโหลดกว่า 100 ตัว ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันยอดนิยมในเกาหลี และ 70 ตัวในนี้ไม่มีใน Android Market

ดูท่าทางแล้ว Optimus Z น่าจะขายในเกาหลีเท่านั้น??? แต่ LG ยังมีมือถือ Optimus อีกหลายรุ่นรอคิวอยู่ (ดูข่าวเก่า LG เปิดตัวโทรศัพท์ Android 2.2 ในชื่อตระกูล Optimus, วางตลาด 10 รุ่นในปีนี้) รวมถึงแท็บเล็ต Android ที่จะเปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีอีกด้วย ที่มา - Android Central

แอปเปิลเปิดตัว Aperture 3 พร้อม 200 ฟีเจอร์ใหม่

Aperture เป็นโปรแกรมจัดการภาพถ่ายระดับมืออาชีพสำหรับ Mac OS X ได้ออกอัพเดทเวอร์ชันใหม่คือ Aperture 3 มาในวันนี้แล้วครับ โดยเปิดตัวที่ราคา 199 USD (7,290 บาท) และสำหรับอัพเกรดจาก Aperture 1 หรือ 2 ราคา 99 USD (3,690 บาท)
โดยผมจะขอพูดถึงแค่ส่วนหลักๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากตัว Aperture 2 นะครับ

* ในเวอร์ชันนี้ได้มีปรับเปลี่ยน Interface ใหม่เล็กน้อย เช่น ไอคอนตรงส่วนของ Toolbars ด้านข้าง
* จดจำใบหน้าบุคคลในภาพ ด้วยเทคนิค Face Detection และ Face Recognition เหมือนใน iPhoto '09 และสามารถจัดหมวดหมู่แยกแต่ละใบหน้าได้
* จดจำสถานที่ถ่ายภาพ สามารถเพิ่มข้อมูลสถานที่ไว้ในภาพที่เราถ่ายได้ โดยภายในโปรแกรมจะมีแผนที่มาให้ซึ่งจะแสดงสถานที่จากค่า GPS ใน EXIF ของภาพ
* การปรับแต่งภาพด้วย Brushes สำหรับการแก้ไขภาพในบางส่วน
* การจัดการภาพด้วย Effect ต่างๆ และการใช้ Preset จัดการภาพในปริมาณมากๆ
* จัดการภาพในหน้าจอแบบ Full-Screen
* การสร้าง Slideshow โดยสามารถใส่เสียง และวิดีโอลงในสไลด์ได้ ซึ่งหลังจากทำเสร็จสามารถ Export เป็นไฟล์วิดีโอออกมาได้
* สามารถอัพโหลดภาพไปยัง Facebook, Flickr และ MobileMe Gallery ผ่านตัว Aperture 3 ได้เลย
* สามารถ Import Library จาก iPhoto '09 มาใช้งานต่อใน Aperture 3 ได้เลย
* Aperture 3 สนับสนุนในรุ่น 64-Bit ด้วย แต่ก็ยังสามารถใช้ในรุ่น 32-Bit ได้อยู่ โดยรวมแล้วถือว่าใส่ความสามารถใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมามากเลย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถต่อสู้กับโปรแกรมแต่งภาพอื่นๆ เช่น Adobe Lightroom ที่กำลังจะออกเวอร์ชัน 3 สำหรับ Mac OS X ได้หรือไม่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้จากที่มาเลยครับ

ที่มา - Apple

เปลี่ยน Logo Windows ตอน Boot และ Shutdown

คุณสามารถเปลี่ยนรูปภาพโลโก้ Windows ตอน Boot เครื่อง และรูปภาพที่บอกคุณว่า "Please wait while Windows is shutting down" และ "It is now safe to turn off your computer" มาเป็นรูปภาพตามแบบที่คุณต้องการได้ โดยแก้ไข file logow.sys และ logos.sys ซึ่งทั้งสองไฟล์นี้อยู่ใน folder "C:\Windows" หากคุณเบื่อกับโลโก้เดิมๆ และ รูปภาพตอน Shutdown ที่จืดชืด เรามาเปลี่ยนรูปภาพเหล่านี้กันดีไหมครับ เริ่มกันเลย

1. จริงๆ แล้วไฟล์เหล่านี้เป็นไฟล์รูปภาพ bitmap มาตรฐานทั่วไปมีนามสกุลเป็น .bmp
logow.sys คือรูป "Please wait while Windows is shutting down"
logos.sys คือรูป "It is now safe to turn off your computer"
2. คุณสามารถใช้โปรแกรมกราฟิกทั่วๆ ไปเช่น Microsoft Paint, Adobe Photoshop, Paint Shop Pro ฯลฯ แก้ไขรูปภาพเหล่านี้ได้ หรือหากต้องการนำรูปภาพที่เราต้องการมาเปลี่ยนก็ได้เช่นกัน
3. ไฟล์เหล่านี้เป็น bitmap 256 color มีขนาด 320 x 400 pixel แต่แตกต่างจากไฟล์รูปภาพทั่วไปตรงที่ ไฟล์เหล่านี้ถูกย่อให้อยู่ในอัตราส่วน 4 : 3 เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการให้รูปภาพที่ได้มีขนาดพอดีกับของเดิม ต้องสร้างรูปภาพที่ 534 x 400 pixel ก่อนเมื่อเสร็จแล้วจึงเปลี่ยนขนาดเป็น 320 x 400 pixel
4. หลังจากการแก้ไข แต่งเติมรูปภาพแล้วก็เปลี่ยนนามสกุลให้เป็น .sys ตามชื่อรูปที่ต้องการจะเปลี่ยน แล้วนำแทนที่ของเดิมใน "C:\Windows" (อย่าลืม Backup ของเก่าเก็บไว้ด้วยนะครับ)
5. สำหรับ Logo ที่เป็นรูป Windows ตอน Boot เครื่อง ก็สร้างวิธีเดียวกันนี้แหละครับ แต่ไฟล์ที่ได้ให้ตั้งชื่อว่า logo.sys และนำไปเก็บไว้ที่ "C:\"

วิธีการ แปลงตลับหมึก Epson ให้กลับมา refill ได้อีกครั้ง

Chip Resetter สำหรับตลับหมึก Epson

ทำไมจึงต้องใช้ Chip Resetter กับตลับหมึก Epson
เพราะ ตลับหมึก Epson มีชิพที่เก็บข้อมูลการใช้เครื่องพิมพ์ เมื่อหมึกหมดจะไม่สามารถเติมหมึกได้ เพราะชิพจะเก็บข้อมูลการใช้งานไว้ แม้เติมหมึกแล้ว ข้อมูลหมึกหมดก็ยังเก็บไว้ใน
ชิพ Chip Resetter จึงมีหน้าที่ในการล้างข้อมูลเก่า ให้เหมือนชิพที่ยังไม่ถูกใช้งาน จึงจะ
สามารถเติมหมึกในตลับเดิมได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นการประหยัดเงินได้มาก เพราะการซื้อหมึกเป็นตลับ โดยเฉพาะหมึกของแท้จะราคาแพงมาก

เติมหมึกแล้วหัวพิมพ์ตัน ?

มีความเข้าใจผิดกันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการเติมหมึกด้วยตนเอง แล้วหัวพิมพ์ตัน
หลัง จากเอาตลับหมึกออกมาจากเครื่องพิมพ์ และเติมหมึกจนเติมแล้ว เมื่อเราเอาตลับใส่คืนเข้าไปในเครื่องพิมพ์ น้ำหมึกยังไม่ไหลเข้าไปในท่อหมึกทันที ดังนั้นเมื่อเราสั่งทดลองพิมพ์จึงมักปรากฎว่า บางสีหมึกไม่ออก ส่วนใหญ่มักจะตกใจ สั่งล้างหัวพิมพ์ทันที พอสั่งลองพิมพ์อีก หมึกก็ไม่ออกอีก จึงนึกว่าหัวพิมพ์ตันแน่แล้ว เลยสั่งล้างหัวพิมพ์อีก ก็ยังพิมพ์ไม่ออกอีก จนท้อใจเลิกเติมหมึก
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตของเอปสัน จะมีท่อส่งหมึกไปยังหัวพ่นหมึก ดังนั้นเมื่อเราดึงตลับหมึกออกจากเครื่องพิมพ์น้ำหมึกในท่อก็จะขาดไป และมีอากาศเข้าไปแทรก คำแนะนำมีดังนี้

1. หลังจากเติมหมึกและเอาตลับหมึกใส่กลับเข้าไปแล้ว ให้ทิ้งไว้ 30 นาที (ทิ้งไว้นานเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เพื่อให้หมึกไหลเข้าไปแทนที่อากาศอย่างสมบูรณ์) จึงค่อยสั่งทดลองพิมพ์ ถ้าโชคดีอาจไม่ต้องล้างหัวพิมพ์
2. ถ้าสั่งทดลองพิมพ์แล้ว สีหมึกออกมาเป็นแถบ ๆ แบบหมึกออกบ้างไม่ออกบ้าง อันนี้สั่งล้างหัวพิมพ์เลย แต่สั่งล้างหัวพิมพ์แล้วก็อย่าเพิ่งสั่งพิมพ์ทันที ทิ้งไว้อีกสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยสั่งพิมพ์
3. เติมหมึกแล้วควรทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงเลยครับ หลังจากเติมหมึกเสร็จทิ้งไว้ข้ามคืนหรือไม่ก็ข้ามวันแล้วค่อยมาพิมพ์ แม้กระทั่งสั่งล้างหัวพิมพ์ก็เหมือนกัน กลับมาพิมพ์รับรองใช้การได้
4. ถ้าพิมพ์อยู่ดี ๆ แล้วหมึกสีใดสีหนึ่งหายไป แสดงว่าหมึกสีนั้นหมดแล้ว ถอดตลับหมึกออกมาเติมได้เลย อย่าคิดว่าหัวพิมพ์ตันนะครับ อย่าไปเชื่อซอฟต์แวร์ของเครื่องพิมพ์ว่าหมึกคุณยังเหลืออยู่ เพราะหมึกแต่ละสีใช้ไม่เท่ากัน ยิ่งเครื่องพิมพ์รุ่นราคาถูก ๆ คุณพิมพ์แบบโฟโต้ได้ไม่เกิน 10 รูปหมึกก็หมดแล้วครับ เพราะตลับหนึ่ง แต่ละสีจุหมึกน้อยมาก
5. การล้างหัวพิมพ์บ่อย ๆ จะเปลืองหมึกมาก ผู้ขายหมึกเติมบางรายแนะนำให้ล้างหัวพิมพ์ 2 ครั้ง ไม่จำเป็นครับ สั่งล้างครั้งเดียวแล้วทิ้งไว้คืนหนึ่ง รับรองใช้ได้ กรณีล้างหัวพิมพ์บ่อย ๆ นอกจากเปลืองหมึกแล้ว จะเปลืองแผ่นซับหมึกด้วย(เครื่องพิมพ์เอปสันใช้ไประยะหนึ่งคุณต้องเปลี่ยน แผ่นซับหมึก)
6. กรณีมีงานด่วนรอเป็นชั่วโมงไม่ได้ คุณต้องมีหมึก 2 ตลับไว้สลับกัน พอถอดอันเก่าออก ให้รีบใส่ตลับใหม่เข้าไปเลย ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องมีอากาศแทรกในท่อหมึก คุณสมบัติ
• สามารถ reset ตลับหมึกอิงค์เจ็ตของ Epson ได้ทุกรุ่น
• มีสัญญาณไฟเขียวแสดงเมื่อ reset เรียบร้อยแล้ว
• ใช้เวลาเพียงแค่ 3-5 วินาที
• ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องถอด chip เพียงแค่นำตลับหมึกประกบกับแท่น reset
• ใช้งานได้ไม่จำกัดครั้ง แบตเตอรี่มีอายุใช้งานมากกว่า 1,000 ครั้ง
• สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เมื่อไฟหมด

วิธีใช้งาน Chip Resetter

1. นำตลับหมึกหงายขึ้น สอดตลับหมึกให้เข้ากับร่องบากบน chip resetter ซึ่งมีหลายขนาด ตามชนิดของตลับหมึก
2. ถ้าสอดตลับหมึกกับแท่น chip resetter ได้ถูกต้อง เข็มของ chip resetter จะสัมผัสกับแผ่น chip ได้พอดี

ปัญหาการใช้งาน Chip Resetter

1. ไฟ LED บนแท่น Chip resetter ไม่กระพริบ เกิดจาก
1.1 เข็มของ chip resetter สัมผัสกับแผง chip ของตลับหมึกไม่สนิท
1.2 ไม่ใช่ตลับหมึกแท้ของ Epson ตลับหมึกเลียนแบบบางยี่ห้อจะ reset ไม่ได้
1.3 ชิพเสีย
1.4 ไฟในแบตเตอรี่ของเครื่อง Chip Resetter หมด หลังจากใช้ไป เกินกว่า 1,000 ครั้ง
2. หมึกออกไม่สม่ำเสมอ เกิดจาก
2.1 มีอากาศแทรกอยู่ในตลับหมึกในขณะที่เติมหมึก ให้ลองใช้คำสั่ง Head cleaning 1-2
ครั้ง หรือเติมหมึกใหม่ แล้ว reset อีกครั้ง
2.2 เติมหมึกยังไม่เต็ม หรือน้อยเกินไป ให้เติมหมึกใหม่ แล้ว reset อีกครั้ง

เพิ่มประสิทธิภาพให้ฮาร์ดดิสก์ SATA ใน Windows Vista

โดยความเร็วที่เพิ่มขึ้นของฮาร์ดดิสก์มาจากการเปิดการทำงานของ write caching ซึ่งมันจะทำให้ข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงบนฮาร์ดดิสก ์ถูกบันทึกลงบนหน่วยความจำแคชที่มีความเร็วมากกว่า ก่อนที่จะเขียนลงฮาร์ดดิสก์อีกทีหนึ่ง โดยหลังจากข้อมูลดังกล่าวถูกบันทึกลงแคชแล้ว มันก็จะแจ้งกลับไปยังระบบปฏิบัติการว่า เขียนข้อมูลเสร็จแล้ว เพื่อให้วิสต้าสามารถทำงานอื่นต่อไปได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้วิธีนี้กับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบไฟสำรอง เนื่องจากมันเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูล หากไฟดับในขณะที่ข้อมูลในแคชยังไม่ถูกเขียนลงบนฮาร์ดดิสก์ แต่ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กก็หายห่วงเรื่องนี้ไป ยกเว้นแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กจะหมดเสียก่อน สำหรับวิธีเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของฮาร์ดดิสก์ SATA มีดังนี้

- คลิ้กปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิ้ก System and Maintenance แล้วเลือก Device Manager
- คลิ้กเครื่องหมายบวกหน้ารายการ Disk Drives
- คลิ้กขวาบนไอคอนฮาร์ดดิสก์ SATA เลือก Properties
- คลิ้กแท็บ Policies สังเกตในกรอบ Write Cachine and Safe Removal เลือกเช็กบ็อกซ์หน้าหัวข้อ Enable advanced performance
- คลิ้กปุ่ม OK แล้วปิดหน้าต่าง Device Manager

เพียงแค่นี้ ประสิทธิภาพการทำงานของระบบก็จะเร็วขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว

ตรวจม้าโทรจันว่าเข้ามาในเครื่องคุณหรือเปล่า

ให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องท่านโดยการกดปุ่ม start-->program-->MS-Dos Prompt
แล้วพิมพ์ netstat -an
ถ้าท่านพบคำว่า TCP 0.0.0.0: 12345 หรือ 12346 แสดงว่าเครื่องของท่านโดนม้าโทรจันแล้วครับ (2portนี้คือNetbusครับ)
หรือถ้าพบคำว่า UDP 0.0.0.0 :313337 แสดงว่าท่านโดนม้าโทรจันโปรแกรมBOแอบเข้ามาในเครื่องท่านแล้วนะครับ

จ้องจอทั้งวัน ปวดตาทำอย่างไรดี

รู้ใหมว่าการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ นอกจากจะทำให้ดวงตาปวดและล้าแล้ว รังสีจากจอยังสร้งความระคายเคือง และส่งผลให้ตาแก้งอีกด้วย

คุณสามารถบรรเทาอาการตาแห้งด้วยการหลอดตาด้วยน้ำตาเทียม (มีขายตามร้านขายยาทั่วไป) ส่วนอาการอ่อนล้าของสายตา แนะนำให้คุณพักสายตาสักครู่ หรือทอดสายตามองดูต้นไม้ใบเขียวที่อยู่นอกหน้าต่าง แต่ถ้าไม่ยากปวดตา ขอแนะนำให้หาแผ่นกรองรังสีมาติดหน้าจอ และเวลานั่งทำงานควรนั่งให้ห่างจากหน้าจออย่างน้อย 60 ซม. กระพริบตาบ้าง รวมถึงทุก ๆ 20 นาทีควรละสายตาจากหน้าจอสักครู่ สุดท้ายให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ ครับ

ซ่อนไดร์ฟที่อยู่ใน My Computer XP

My Computer จะแสดงให้ให้ไดร์ฟต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และสามารถเข้าไปเปิดใช้ข้อมูลในไดร์ฟต่าง ๆ เหล่านั้นได้ ถือว่าเป็นเครื่องมือหลักที่มีความสำคัญมากทีเดียว ในกรณีที่คุณใช้เครื่องหลายคน คุณอาจจะปิด My Computer นี้ไว้เป็นครั้งคราวเพื่อความปลอดภัย วิธีการทำมีดังต่อไปนี้

1. คลิก Strat > Run
2. พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc
3. คลิกปุ่ม OK จากนั้นจะปรากฎหน้าต่าง Group Polcy ขึ้นมา
4. เข้าไปที่ Administrative Templates
5. คลิกลงบนโฟลเดอร์ Desktop
6. ดับเบิ้ลคลิกที่รายการ Remove My computer icon on the desktop
7. . จะปรากฎไดอะล๊อกบ๊อกซ์ Remove My computer icon on the desktop Properties ให้คลิกที่ Option Enabled
8. คลิกปุ่ม Apply แล้วคลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันสั่ง

ดูดเว็บให้หมดง่าย ๆ ด้วย HTTrack Website Copire

คุณเบื่อหือไม่ ที่จะต้องมานั่งคลิกลิงคฺ์ แล้วรอข้อมูล หรือคุณอยากได้ข้อมูลบนเว็บไซต์นั้น แต่ขี้เกียจมานั่ง Save as เว็บเพจทีละหน้า วันนี้ผมจะมาแนะนำ

การ Save ทั้งเว็บโดยใช้โปรแกรม HTTrack Website Copire ซึ่งเป็นฟรีแวร์ และใช้งานง่าย ๆ เรามาเริ่มกันเลยครับ

1. ให้คุณไป Download โปรแกรม HTTrack Website Copire มาครับ ที่ http://www.httrack.com/page/2/en/index.html
2.ทำการติดตั้งให้เรียบร้อย แล้วเปิดโปแกรมขึ้นมา ซึ่งหน้าตาของโปรแกรมจะเป็นเหมือนดังรูปด้านล่าง จากนั้นให้คลิกที่ Next
3. ใส่ชื่อโปรเจ็คที่ New Project Name แล้วคลิกเลือกที่เก็บว่าจะเก็บไว้ที่ไหนแนะนำว่าควรสร้างเป็นโฟลเดอร์แยกไว้ ต่างหาก จากนั้นให้คลิก Next
4. คลิกที่ Add URL เพื่อใส่ URL ของเว็บที่ต้องการ Copy แล้วคลิก OK
5. ให้คลิกที่ Set option เพื่อตั้งค่าต่าง ๆ ที่แท็บ Scan Rules ให้ใส่นามสกุลของไฟล์ท่ต้องการ Copy
6. ที่แท็บ Flow Control ใส่ค่า Number of connection เพื่อจำกัดการเชื่อมต่อ ซึ่งถ้าคุณเชื่อมต่อโดยโมเด็มให้กำหนดไว้อย่าเกิน 10 เพราะถ้าเกินจะทำให้ การส่งข้อมูลช้า ที่ Retries ใส่ 6 จากนั้นให้คลิกที่ OK
7. จากนั้นให้คลิกที่ Next
8. ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่ Disconnect when finished เพื่อเมื่อ Copy เสร็จแล้วให้ปิดอินเตอร์เน็ต แล้วคลิกที่ Finish
9. โปรแกรมจะเริ่มทำการ Copy และมีแถบแสดงความคืบหน้าด้วย ซึ่งอาจจะใช้เวลานานถ้าเว็บนั้น ๆ ใหญ่

* ถ้าต้องการดูรายละเอียดไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลดอยู่ให้คลิกที่ชื่อไฟล์นั้น ๆ
* คุณสามารถเปิดเว็บไซต์ที่คุณ Copy ได้ที่โฟลเดอร์ที่คุณสร้างไว้โดยให้เปิดที่ไฟล์ Index แล้วเลือก Project ที่ตั้งไว้
* การ Update เว็บไซต์ โดยเข้าไปที่โฟลเดอร์ที่คุณสร้างไว้ แล้วดับเบิ้ลคลิกชื่อ Project ที่คุณตั้งไว้สังเกตุว่าจะเป็นรูปแผ่นดิสก์ครับ
อย่างไรอย่าดูดเว็บบีคอมหมดละครับ เข้ามาเยี่ยมเยือนกันบ้าง ....

NAS คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร?

NAS ประกอบด้วยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับระบบ เครือข่าย IP รูปแบบการเชื่อมต่อลักษณะนี้ จะสนับสนุนให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่ เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย IP สามารถ Access หรือเข้าถึงเพื่อใช้งาน NAS ในระดับของแฟ้มข้อมูล

ระบบ NAS เป็นระบบที่ให้บริการแก่คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในระดับของแฟ้มข้อมูล โดยเฉพาะโปรโตคอลที่จัดการเรื่องการแชร์แฟ้มข้อมูลอย่างเช่น NFS และ CIFS ซึ่งส่วนใหญ่องค์กรที่ติดตั้งอุปกรณ์ NAS นี้ก็เพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น หรือเพื่อบริหารไฟล์ข้อมูลเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันสามารถรองรับการทำงานของแอพพลิเคชันและฐานข้อมูลด้วย NAS ที่ประยุกต์การใช้งานแบบวินโดวส์ ซึ่งเราสามารถจัดการกับอุปกรณ์ประเภทนี้แบบเดียวกับวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ทั่ว ๆ ไป ซอฟท์แวร์สำรองข้อมูลสามารถติดตั้งลงไปในอุปกรณ์ NAS ได้โดยตรง การที่เทปไดรฟ์เชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์ NAS ช่วยให้เราสามารถทำการสำรองข้อมูลแบบโลคอลได้ ดังนั้นระบบจึงไม่จำเป็นต้องโอนถ่ายข้อมูลสำรองผ่านเครือข่าย TCP/IP อีกต่อไป ผลที่ตามมาก็คือประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น

Flash BIOS แล้วเครื่องเจ๊ง ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดเท่านั้นจริงหรือ

มีหลายคนที่มักเข้าใจผิด ๆ ว่า ถ้า Flash BIOS พลาดแล้วทำให้เครื่องเจ๊ง ต้องซื้อเมนบอร์ดมาเปลี่ยนใหม่เท่านั้น จริง ๆ แล้วยังพอมีทางเยียวยาให้หายได้เหมือนเดิม คือต้องถอดชิป CMOS ไปโปรแกรมใหม่ ซึ่งสามารถใช้บริการ ได้ตามร้านซ่อมคอม ฯ ทั่วไป เสร็จแล้วก็นำชิป CMOS มาติดตั้งลงบน Socket ตามเดิม โดยขั้นตอนแรกอย่าลิมเข้าไป Load Default ใน BIOS เสียก่อน จากนั้นก็สามารถใช้งานเครื่องได้ตามปกติ ถ้าคุณไม่สามารถทำเองได้ก็ยกไปใช้ช่างทำเองทั้งหมดก็ได้ ค่าใช้จ่ายประมาณ 300-500 บาท

ทิปประหยัดแบตฯมือถือ

ข้อเท็จจริงที่ควรทราบก็คือ ลูกเล่นไฮเทคฯต่างๆ มักจะสวาปามพลังงานจากแบตฯ มากกว่าฟังก์ชันโทรศัพท์เสียอีก ดังนั้นการยื้อแบตฯไม่ให้หมดเร็ว (ในกรณีไม่มีแบตฯสำรอง หรือไม่มีที่ชาร์จ) วิธีง่ายๆ ก็คือ ปิดฟังก์ชันที่ไม่ใช้ให้คงเหลือไว้แค่โทรออกรับสายนั่นเอง อย่างเช่น ควรปิดฟังก์ชันไร้สายอย่าง Wi-Fi Internet และ Bluetooth ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ เพราะพวกนี้กินไฟเก่งมาก พวก GPS ก็เช่นเดียวกัน แค่ปิดฟังก์ชันพวกนี้ ก็มีพลังงานในแบตฯ เหลือเพื่อใช้สแตนด์บาย หรือโทรออกได้นานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว


แต่ถ้าอยากให้ได้นานกว่านั้นขึ้นไปอีก แนะนำให้ลดความสว่างของหน้าจอลง และยกเลิกฟังก์ชันการสั่นเมื่อมีสายเรียกเข้า หรือ SMS โดยเฉพาะช่วงแบตฯ จวนเจียนไกล้หมด การปิดฟังก์ชันพวกนี้จะช่วยต่ออายุแบตฯ ให้เหลือไปจนถึงที่คุณสามารถใช้ชาร์จเจอร์ได้ และในกรณีที่ใช้มือถือถ่ายรูป ถ้าเป็นรุ่นที่มีแฟลชในตัว หากเป็นการถ่ายนอกสถานที่ แฟลชก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ปิดซะ และถ้าคุณกำลังจะพักผ่อนนอนหลับ โดยไม่อยากให้ใครมากวน จังหวะนี้ก็ปิดมือถือไปเลยดีกว่า ตื่นมาแล้วค่อยเปิด หวังว่า คำแนะนำในการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่มือถือคงจะเป็นประโยชน์กับน้องนะครับ

ความร้อนกับคอมพ์พัง

เวลาที่พูดถึงความร้อนแค่อ่านก็รู้สึกร้อนวูบวาบ จำได้ว่าสมัยลุงตาบูยังเด็กๆ เมืองไทยยังมี 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน แต่เดี๋ยวนี้เมืองไทยมีแต่ร้อน กับโคตรร้อน หลานๆ ลองนึกดูว่านี่ยังไม่เข้าเดือนเมษายนที่จะต้องเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด อากาศยังร้อนตับแตกขนาดนี้
บ่นเรื่องอากาศร้อนซึ่งเป็นที่มาของคอลัมน์ไอทีต้องระวังฉบับนี้ที่ลุงจะขอ พูดถึงเรื่อง ความร้อนกับคอมพ์พัง เป็นที่ทราบกันดีมานานแล้วว่า ความร้อนส่งผลต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (รวมถึงสุขภาพกายและสุขภาพใจของลุงด้วย) แต่เพราะคอมพิวเตอร์ไม่ใช่คนก็เลยบ่นให้เราฟังว่าร้อนไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าหลานๆ จะไม่สามารถทราบได้ว่าตอนนี้น่ะคอมพ์มันร้อนเกินไปแล้ว

อาการที่บอกให้รู้ว่าตอนนี้คอมพ์นั้นร้อนเกินไปแล้ว ได้แก่การที่อยู่ๆ เครื่องก็แฮงก์แบบนิ่งสนิททำอะไรก็ไม่ขยับ บางครั้งก็อาจได้ยินเสียงพัดลมดังผิดปกติ คอมพิวเตอร์ส่วนมากจะมีพัดลมสอง ตัว - ตัวหนึ่งสำหรับระบายความร้อนให้เพาเวอร์ซัพพลายและอีกตัวหนึ่งสำหรับระบาย ความร้อนให้กับโพรเซสเซอร์ พัดลมเหล่านี้จะเป็นส่วนประกอบแรกๆ ของคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานผิดพลาดเมื่อเครื่องร้อน ยิ่งถ้าพัดลมตัวใดตัวหนึ่งเสียก็อาจทำให้เกิดอาการจอฟ้า (มหาภัย) อย่างที่คอมพิวเตอร์.ทูเดย์เคยนำเสนอไปแล้ว

คอมพิวเตอร์นั้นไวต่อ อุณหภูมิห้องมากกว่าหลานๆ เสียอีก หากอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 85 องศา (ฟาเรนไฮต์) อุณหภูมิภายในเคสฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 110 องศา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เก็บเครื่องไว้ในอุณหภูมิห้องที่สูงที่สุดประมาณ 75 ถึง 85 องศาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ (และเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายอย่างถาวร)

หากคอมพิวเตอร์ของหลานๆ ร้อนเกินไป และคอมพิวเตอร์ก็เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานนัก (แต่ถ้าซื้อมานานก็คงเป็นธรรมดาของโลกที่ต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา) ลุงตาบูก็มีเคล็ดลับเง่ายๆ ในการช่วยแก้ปัญหา ดังนี้คือ จัดวางตำแหน่งของคอมพ์ตัวเก่งในที่ระบายอากาศที่ดีขึ้น ซึ่งก็ไม่จำเป็นว่าต้องเปิดแอร์ให้เย็นเวอร์แล้วทนนั่งใส่เสื้อหนาว แต่ให้เน้นวางในจุดที่มีการระบายอากาศที่ดี

จำกันง่ายๆ เลยก็คือควรจัดวางคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากกำแพงสัก 2-3 นิ้ว อย่าวางคอมพิวเตอร์ไว้กับพื้นโดยตรง แต่ก็ไม่ควรวางลงไปบนพื้นหรือบนพรมโดยตรงแนะนำให้ ซื้อแท่นวางคอมพิวเตอร์ที่ยกเครื่องขึ้นเหนือพื้นสัก 2-3นิ้ว เพื่อลดการสะสมของฝุ่น ตรวจดูให้แน่ใจว่าแท่นวางนั้นไม่ได้ขวางพัดลมระบายอากาศ

ในส่วนภายใน เครื่องหากเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็ควรจัดสายที่ระโยงระยางภายในให้เรียบ ร้อย เพื่อให้การระบายอากาศภายในดีขึ้น หลังจากที่จัดการกับเรื่องทางกายภาพไปแล้ว หลานๆ ก็ยังสามารถอัพเดตไบออส ว่ากันว่าการใช้ไบออสที่อัพเดตขึ้นจะช่วยให้การทำงานของซีพียูทำได้ดีขึ้น อีกด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ควรให้คนที่เชี่ยวๆ เขาทำให้เราจะดีกว่า ง่ายๆ เพียงเท่านี้หลานๆ ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานให้กับคอมพิวเตอร์ให้อยู่กนชั่วลูกชั่วหลานกัน เลยก็ว่าได้

แนะนำแอร์การ์ด

แอร์การ์ด( Air Card) เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เนตผ่านทางสัญญาณมือถือ เหมาะสำหรับผู้ทีต้องเดินทางและบริเวณที่ไม่่มีสายสัญญาณอินเทอร์เนตความ เร็วสูงให้บริการ แอร์การ์ดจะถูกใช้ีงานร่วมกับซิมของโทรศัพท์มือถือ หรืออาจจะมองว่าแอร์การ์ดเองก็คือมือถึอเครื่องหนึ่งก็ได้ บางผลิตบางรายแถมชุดไมโครโฟนและหูฟังมาด้วยเพื่อให้ใชัเป็นโทรศัพท์ได้ หรือจะใช้รับส่ง SMS ก็ได้เช่นกัน


โดยปกติแล้วเมื่อเราซื้อแอร์การ์ด ทางผู้จัดจำหน่ายจะแถมซิมโทรศัพท์มาให้ด้วย ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ทันที ต่างจากเมื่อประมาณปีหนึงก่อนหน้า ทีัเราจ้องต้องดำเนินการเปิดการใ้ช้บริการโดยโทรเข้าศูนย์บริการของผู้ใช้ บริการเครือข่ายเป็นทีุ่ยุ่งยากพอสมควร

ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ แอร์การ์ด เริ่มจากราคาแอร์การ์ดอยู่ที่ตัวละ 2,000 บาท ส่วนค่าใช้่จ่ายในการใช้บริการอินเทอร์เนตนั้น มีหลายแพ็คเกจ ผู้เขียนแนะนำให้ใช้แบบเติมเงิน ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 200 บาท ต่อ 60 ชม. (หรือจะเป็น 100 บาท ต่อ 30 ชม. ก็มี)

การทำตัวอักษรเส้นประ

มีคนถามถึงวิธีการทำตัวอักษรเส้นประเพื่อให้เด็กนักเรียนฝึกคัด หลังจากค้นดูใน Google ปรากฎว่าทำได้โดยใช้ฟอนต์ที่ป็นเส้นประ ​ สำหรับวิธีการโดยละเอียดมีดังนี้
1. ดาวน์โหลดฟอนต์เส้นประ มาไว้บนเครื่อง
2. ขยายแฟ้มออกมาแล้วนำฟอนต์ไปไว้ในโฟลเดอร์ c:\windows\fonts
3. พิมพ์ใบงานในเอกสารเวิร์ด โดยเลือกฟอนต์ชื่อ Dot3 ท่านจะได้ตัวอักษรเส้นประตามต้องการ



ตอนนี้ผมได้ทำในรูปแบบ Video ไว้ให้ใน Youtube เผื่ออ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจนะครับ



หรือจะคลิกเข้าไปดูที่ https://www.youtube.com/watch?v=d_i57DAtzWw