7 วิธีชาร์จโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตให้แบตเต็มเร็วขึ้นกว่าเดิม


เคยมั้ยที่คุณเล่นสมาร์ทโฟนตอนดึกๆจนนอน ตื่นเช้ามาแบตก็จะหมดเพราะลืมชาร์จแบต คราวนี้ต้องการชาร์จให้แบตให้มีระดับเพียงพอที่จะเดินทางไปที่ทำงาน หรือ เราต้องการชาร์จแบตให้เต็มไวไว ไม่ต้องรอนาน เป็นชั่วโมงกว่านี้จะทำอย่างไรดี ? วันนี้ทีมงานจึงรวบรวมเทคนิคการชาร์จแบตในรูปแบบต่างๆ ให้แบตเต็มไวขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่ต้องเตรียม

1.ที่ปลั๊กชาร์จ Adaptor แบตเตอรี่มือถือหรือแท็บเล็ต
2. สายพอร์ต usb ของอุปกรณ์มือถือ แท็บเล็ตคุณ
3. Powerbank (ถ้ามี)


วิธีการชาร์จมือถือและแท็บเล็ต ให้แบตเต็มไวขึ้น
1.ปิดเครื่องมือถือ หรือปิดแท็บเล็ต แล้วเสียบกับ สายชาร์จ AC Adaptor วิธีนี้จะชาร์จเร็วที่สุด

2.แต่ถ้าหากมีเรื่องจำเป็นต้องใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการพิมพ์งานระหว่างชาร์จด้วยละก็ ให้เปิดในโหมดเครื่องบินแล้ว เส่ียบกับสายชาร็จ AC Adaptor ชาร์จไว้ ก็จะช่วยชาร์จแบตเร็วขึ้นได้เช่นกัน เพราะมันจะปิดพวกสัญญาณเครือข่าย , Bluetooth , gps ,wifi , nfc และอื่นๆ จะปิดทั้งหมดทั้งนี้คุณสามารถพิมพ์งานระหว่างชาร์จแบตได้

3.แนะนำ ปิดเน็ต 3G, 4G ไว้ ก็มีส่วนให้ชาร์จแบตไวขึ้นเล็กน้อย

4.ปิดพวก wifi ,gps , Bluetooth , NFC , ลูกเล่นอื่นๆในมือถือ ก็มีส่วนให้ชาร์จไฟเร็วขึ้น

5.ระหว่างชาร์จ ไม่เล่นมือถือและแท็บเล็ตสักพัก แบตก็จะชาร์จเต็มไวกว่า เสียบชาร์จไปแล้วเล่นสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไป

6.หากมือถือคุณเป็นพอร์ต usb 3.0 ละก็ ให้เปลี่ยนสาย usb 2.0 มาเป็น usb 3.0 ในการชาร์จ ซึ่งจะช่วยให้การชาร์จมือถือเต็มไวกว่าเดิม รวมถึงการส่งข้อมูลที่ไวขึ้นด้วย (ใช้ได้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่น เช่น samsung Galaxy Note3 , Samsung Galaxy S5 ซึ่งรองรับ usb 3.0 อยู่)

7.ให้ปิดเครื่องแล้ว ใช้ powerbank ในการชาร์จแบต แบตมือถือก็จะเพิ่มระดับได้ไว ทั้งนี้การเลือก powerbank นั้น ไม่ใช่แค่ความจุเยอะๆ จะต้องส่งพลังไฟฟ้าจาก powerbank ไปยังมือถือให้ไวด้วย

นี่คือ 7 วิธีในการชาร์จแบตเตอรี่มือถือ และแท็บเล็ตให้เต็มไวขึ้น ทั้งนี้จะเต็มได้ไวจริงมั้ย? ขี้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตคุณว่า สามารถจุแบตกี่ mAh หากอุปกรณ์มือถือแท็บเล็ต จุแบตสูง อาจต้องใช้เวลาการชาร์จเยอะขึ้นไปอีก

การคอนฟิกระบบตรวจสอบ (Audit) บน Windows


หากต้องการคอนฟิกระบบตรวจสอบการหรือไฟล์ ซอร์ฟแวร์ ไดเรกทอรี่ ต่าง ๆ ของWindows เพื่อประโยชน์ในการติดตามพฤติกรรมการใช้งานหรือตรวจสอบสาเหตุความขัดข้อง ต่าง ๆ ของระบบเราสามารถทำได้ดังนี้
งานโปรเจ็คที่เราทำอาจต้องใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันหรือไฟล์ที่แชร์ไว้ใน Network Drive คำถามที่เราอาจคิดขึ้นมาก็คือ
  • วัน เวลา ที่เกิดเหตุขัดข้อง
  • Which backup should be used to restore the data?
  • Activity ของผู้ใช้งานที่อาจส่งผลต่อความขัดข้องมีอะไรบ้าง
  • เหตุขัดข้องเกิดแบบเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยไหมและน่าจะเกิดขึ้นอีกไหม
ในระบบปฎิบัติกาWindowsมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่าAuditเพื่อตรวจสอบการทำงาน ของUserและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่นสร้าง ลบ เปลี่ยนแปลงไฟล์ เป็นต้น ซึ่งสามารถบอกเหตุที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจได้ การใช้Auditนี้จะทีการเก็บบันทึกActivityต่างๆ ไว้โดยละเอียดขึ้นอยู่กับอ็อปชั่นที่เราเลือก ดังนั้นการเลือกที่จะบันทึกสิ่งต่าง ๆ โดยละเอียดจะทำให้ระบบช้าลงโดยปริยายด้วย การเก็บเฉพาะActivityที่สนใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบไม่ช้าลงไปจนมีนัย สำคัญ
ฟังก์ชั่น Auditing มีอยู่ใน Microsoft Windows NT OSs: Windows XP/Vista/7, Windows Server 2000/2003/2008. Unfortunately, ยกเว้น Windows Home versions ที่ไม่มีหน้าสำหรับจัดการเหมือนรุ่นอื่น ๆ จึงทำให้การใช้งานยากกว่า

คืน RAM ให้ระบบด้วย RAMRush


เปิดโปรแกรมหลายตัวบางครั้งปิดโปรแกรมแล้วแต่ระบบไม่คืนRAM ให้ ทำให้เปิดโปรแกรมใหม่ ๆ ทำงานได้ช้าลงไม่คล่องตัว เครื่องค้าง นิ่ง ขจัดปัญหานี้ด้วย RAMRush
RAMRush ทำหน้าที่

  •         เพิ่มประะสิทธิภาพของระบบ
  •         กู้คืนจำนวน RAM ของระบบได้มากขึ้นในสภาวะที่ต้องการใช้ RAM
  •         Defragment RAM
  •         กู้คืนจำนวน RAM ที่ใช้โดย Windows applications
  •         ขจัดปัญหาหน่วยความจำรั่วไหล
  •         ป้องกันระบบค้าง แฮงค์
  •         แสดงค่าการใช้งาน CPU และ RAM แบบ Realtime
  •         มี Hotkey เรียกคืนความจำทันที
  •         ฟังก์ชัั่น Click to do optimization เพื่อบังคับให้ทำขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อ Optimize ระบบ
  •         โหมด Quiet อยู่ที่ Windows tray
  •         โหมด AutoOptimize
        เรียกผ่าน Command line ได้  (เช่น ‘PATHOFRAMRUSH/RAMRush.exe –AutoOptimize’ จึงเอาไปเรียกใช้ใน GENESIS32 SCADA ได้)