Nvidia ชี้โน้ตบุ๊คใหม่ดีไซน์"แมคบุ๊คแอร์"

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดกับตลาดโน้ตบุ๊คอีกครั้ง โดยทิศทางล่าสุดมาจากบริษัทผู้ผลิตชิปกราฟิกที่ปัจจุบันหันมาเอาดีทางด้านทำ โพรเซสเซอร์ที่ประหยัดพลังงานเป็นเลิศ ในขณะที่มีประสิทธิภาพการทำงานเยี่ยมยอดทั้งพลังประมวลผล และการแสดงผลทางด้านกราฟิกระดับฟูลไฮเดฟ นั่นก็คือ Nvidia โดยล่าสุด Jan-Hsun Huang ซีอีโอของบริษัทพูดถึงดีไซน์โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่จะใช้ MacBook Air เป็นต้นแบบ "อีกไม่นานคุณจะพบว่า การมองหาโน้ตบุ๊คที่ดีไซน์แตกต่างจาก MacBook Air เป็นเรื่องยากทีเดียว" Huang กล่าว "ผมคิดว่า MacBook Air เป็นต้นแบบของการดีไซน์แลปทอปที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานแบบฝาพับ (calm shell)" เขาให้เหตุผลอีกด้วยว่า "โน้ตบุ๊คจะต้องบาง(กว่านี้) เนื่องจากผู้ใช้ไม่ต้องการโน้ตบุ๊คที่มีช่องระบายลมร้อน หรือต้องพกแบตเตอรี่สำรอง" สำหรับเหตุผลที่ Huang ออกมาแสดงทรรศนะเช่นนี้ก็เนื่องจากว่า ชิปของ Nvidia ถูกใช้ และมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของ MacBook Air โดย Apple เลือกใช้ชิปกราฟิกของ Nvidia มาตั้งแต่รุ่นที่สอง

แต่วิสัยทํศน์ของ Huang สำหรับโน้ตบุ๊คในอนาคตจะไปไกลกว่า MacBook Air วันนี้ โดยโน้ตบุ๊คในอนาคตจะต้องทำงานด้วยชิป ARM (ไม่ใช่ Intel) ซึ่ง Nvidia เป็นผู้ผลิตหลักสำหรับชิปเหล่านี้ โดยป้อนให้กับบรรดาบริษัทผู้ผลิตแท็บเล็ตชั้นนำอย่าง Motorola, Samsung และ LG และในปี 2014 โน้ตบุ๊คสายพันธุ์ ARM จะสามารถทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ WIndows หรือ Android ของ Google ที่ปัจจุบันผูกพันกับโพรเซสเซอร์ ARM อย่างเหนียวแน่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คที่ดูดีไซน์คล้าย MacBook Air ก็เช่น Toshiba AC110 ซึ่งมีความบาง และเบามาก ทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ Tegra 2 (สถาปัตยกรรม ARM) ของ Nivdia ทีสำคัญมันทำงานไม่ช้า เนื่องจาก Nvidia กำลังจะออกโพรเซสเซอร์ Quad-core Tegra (มี 4 แกนหลักในการทำงาน) ซึ่งจะใช้ในแท็บเล็ตปีนี้อีกด้วย งานนี้ดูเหมือน Nvidia จะตั้งใจเปิดศึกกับ Intel อย่างจัง

ช่องโหว่ใหม่"วินโดวส์"โจมตีผ่านเน็ตได้?

รายงานด่วนสำหรับผู้ใช้ Windows ทุกท่าน เนื่องจากมีการเผยแพร่โค้ดที่มีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า สามารถใช้โจมตีระบบปฏิบัติการ Windows ได้ทุกเวอร์ชัน โดยตามรายงานข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้อ้างว่า แฮคเกอร์ที่ไม่หวังดีสามารถใช้ช่องโหว่ดังกล่าว เพื่อเจาะเข้าระบบของเหยื่อผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ แต่ทางไมโครซอฟท์ปฏิเสธว่า ไม่สามารถใช้ช่องโหว่กระทำการในลักษณะดังกล่าวได้ เมื่อวันพุธที่ผ่าน ไมโครซอฟท์ได้ออกมายืนยันว่า ช่องโหว่ที่เกิดจากการล้นข้อมูลในหน่วยความจำบัฟเฟอร์ (buffer overflow) ของระบบปฎิบัติการสามารถส่งผลกระทบต่อโมดูลบริการบราวเซอร์ใน Windows ได้ โดยช่องโหว่ดังกล่าวได้มีการเปิดเผยมาตั้งแต่วันจันทร์ (ของขวัญวันวาเลนไทน์สำหรับไมโครซอฟท์) พร้อมทั้งให้รายละเอียด และโค้ดที่สามารถใช้งานช่องโหว่ดังกล่าวได้ด้วย

Matt Oh นักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยของ MS กล่าวว่า มันมีช่องโหว่อยู่ใน Server Message Block (SMB) จริง โดยจะอยู่ในส่วนฟังก์ชันรายงานความผิดพลาดของโมดูลบริการบราวเซอร์ที่ชื่อ ว่า CIFS (Common Internet File System) ซึ่งรายละเอียดจะปรากฎอยู่ใน blog ของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่พบว่า สามารถใช้โค้ดดังกล่าวเข้าโจมตีเครื่องของเหยื่อผ่านทางเน็ตได้โดยง่าย (เกิดขึ้นได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่สามารถทำได้) แต่สามารถใช้โจมตีในลักษณะ DoS ได้ ประเด็นคือ ช่องโหว่ดังกล่าวสามารถพบได้ใน Windows ทุกเวอร์ชัน