วิธีการปรับแต่ง Windows XP ให้ทำงานได้เร็วขึ้น แบบไม่ต้องลงทุน

หลังจากที่ได้แนะนำ วิธีการปรับแต่ง Windows 98 กันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของการปรับแต่ง Windows XP กันบ้าง ความจริงแล้ว ระบบปฏิบัติการ Windows XP นั้น มีการจัดการกับส่วนต่าง ๆ ที่ค่อนข้างจะดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็น จะต้องไปปรับแต่ง อะไรเพิ่มเติมกันอีก แต่ถ้าหาก ใครอยากจะเสริมโน่นนิด นี่หน่อย ก็ลองมาดูขั้นตอน การปรับแต่ง Windows XP กันได้เลยครับ

* ทำการลง Driver ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีมาให้สำหรับ Windows XP โดยเฉพาะ
สำหรับท่านที่ใช้งาน Windows XP นั้น ความจริงหลังจากที่ลง Windows ใหม่ ๆ แล้ว อุปกรณ์บางตัว อาจจะสามารถ ทำงานได้เลย โดยไม่ต้องมานั่งลง Driver ให้ยุ่งยาก แต่เพื่อให้อุปกรณ์ต่าง ๆ นั้น สามารถทำงานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ มากขึ้น ขอแนะนำให้ทำการลง Driver ของอุปกรณ์แต่ละตัวไปอีกครั้งด้วย จะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ในการใช้งานได้มาก

* การปรับแต่ง Performance ของระบบให้ทำงานได้เร็วขึ้น
เป็นการตั้งค่า Virtual Memory ของระบบที่เหมาะสม โดยเริ่มจากการคลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก Advanced ในช่อง Performance กดที่ปุ่ม Settings >> Advanced และด้านล่างเลือกกดที่ปุ่ม Change จะได้ตามภาพ


# ทำการเปลี่ยนค่าของ Virtual ให้เป็นแบบ Custom size และกำหนดไว้ที่ 512-512 ตามภาพแล้วกด OK จากนั้นเครื่องจะทำการ Restart ใหม่ครั้งหนึ่งก่อนครับ

# การปรับแต่ง Startup and Recovery ของระบบวินโดวส์
เป็นการกำหนดขั้นตอน เมื่อระบบวินโดวส์เริ่มต้นทำงาน และการกำหนดการกระทำ เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นให้เหมาะสม โดยทำการคลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก Advanced ในช่อง Startup and Recovery กดที่ปุ่ม Settings จะได้ตามภาพ

# ทำการยกเลิกการเครื่องหมายถูกใต้ช่อง System failure ออกให้หมด (สำหรับเครื่องหมายถูกด้านบนใต้ช่อง system startup ให้ปล่อยไว้ตามเดิม เนื่องจากเป็นการกำหนดการเลือกบูต Windows แบบหลายระบบ หรือถ้าหากเครื่องนั้น ลงระบบ Windows ไว้แค่ตัวเดียว ไม่ได้ใช้ลูกเล่นนี้ก็เอาออกไปได้เช่นกันครับ) จากนั้นก็กด OK ครับ

# การปรับแต่งระบบรายงานข้อผิดพลาดหรือ Error Reporting
เป็นการกำหนดวิธีการรายงานข้อผิดพลาด ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานอะไร ก็จัดการยกเลิกการทำงานส่วนนี้ซะเลย โดยทำการ คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก Advanced ที่ด้านล่าง ให้กดที่ปุ่ม Error Reporting จะได้ตามภาพ

* ทำการเลือกที่ช่อง Disable error reporting ตามภาพแล้วกด OK ครับ

* ปิดการทำงานของ System Restore เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์
เป็นการปิดการทำงานของระบบ System Restore หรือระบบย้อนเวลากลับของ Windows เช่น ถ้าหากเรามีการติดตั้ง ซอฟต์แวร์ลงไปในเครื่อง แล้วเกิดเปลี่ยนใจหรือว่าซอฟต์แวร์ตัวนั้น ไปสร้างปัญหาให้กับระบบ เราก็สามารถย้อยเวลากลับไป ณวันที่หรือเวลาที่เราต้องการได้ แต่เนื่องจากการที่จะสามารถ ย้อนเวลากลับไปได้นั้น Windows จะต้องใช้พื้นที่บน ฮาร์ดดิสก์ ส่วนหนึ่ง ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ด้วย ตรงนี้แหละครับที่เรียกว่า System Restore ซึ่งถ้าหาก ไม่ต้องการ ใช้งานระบบในส่วนนี้ ก็จัดการปิดการทำงานไปซะดีกว่าครับ โดยทำการ คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก System Restore ตามภาพ




ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Turn off System Restore on all drive แล้วกด OK ครับ

* การตั้งให้ปิดระบบการทำงานของ Auto Update ไปเลยดีกว่า
เป็นการตั้งให้ระบบการอัพเดตไฟล์หรือ Patch ต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของ microsoft แบบอัตโนมัติไม่ทำงาน เนื่องจาก ถ้าหากมีการตั้ง Auto Update นี้ไว้ จะทำให้เมื่อเล่นอินเตอร์เน็ตแล้ว จะมีการเช็คหรือตรวจสอบอยู่บ่อย ๆ รวมถึงในบางครั้ง อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ Windows ต่อเน็ตเองด้วย ซึ่งหากเราต้องการที่จะทำการอัพเดตจริง ๆ ก็สามารถสั่งเองได้เช่นกัน โดยทำการ คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก Automatic Updates ตามภาพ



เอาเครื่องหมายถูกหน้าช่อง Keep my computer up to date... ออกไปและกด OK ครับ

* การปิดการทำงานของระบบ Remote Desktop
เป็นการปิดการทำงานของการใช้งาน Remote Desktop หรือการทำ Remote จากเครืองคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังอีกเครื่องหนึ่ง โดยปกติเราจะไม่ได้มีการใช้งานส่วนนี้อยู่แล้ว ปิดไปเลยดีกว่าครับ โดยทำการ คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนหน้า Desktop เลือก Properties และเลือก Remote ตามภาพ



เอาเครื่องหมายถูกออกไปให้หมดเหมือนภาพด้านบน และกดที่ปุ่ม OK ครับ

* การปรับแต่งระบบ Registry ของระบบวินโดวส์ให้ทำงานได้ดีขึ้น
สำหรับส่วนนี้ ก็จะเป็นการปรับแต่งระบบ Registry ของ Windows โดยในที่นี้ จะไม่ขออธิบายรายละเอียดมากนัก เอาเป็นว่า อยากจะลองปรับแต่งตรงไหน ก็กดเลือกที่ Registry สำเร็จรูปที่ได้เตรียมไว้แล้ว ให้ทำไปทีละอันตามต้องการจนครบได้เลย โดยวิธีการ ก็เพียงแค่เลือกที่ลิงค์ด้านล่างนี้ เลือกที่ Open และกดที่ Yes ครับ
1. การปรับ แต่งวินโดวส์ให้บูตเร็วขึ้น โดยการปรับค่า Memory Management
2. การ ปรับแต่งวินโดวส์ให้เล่นเน็ตเร็วขึ้น โดยการปรับแต่งค่า MAXConectionsPerServer
3. การ ปรับแต่งวินโดวส์ให้ชัตดาวน์ได้เร็วขึ้น โดยการปรับค่าต่าง ๆ ของระบบ

สำหรับขั้นตอนต่าง ๆ เท่าที่พอจะทำการปรับแต่งได้ โดยที่ไม่มีผลกระทบกับระบบ Windows XP มากนักก็มีเพียงเท่านี้ หลังจาก เสร็จสิ้น การปรับแต่งทุกอย่างแล้ว ลองเปรียบเทียบความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งเวลาที่ใช้งานทั่ว ๆ ไปดูนะ ว่าได้ผลอย่างไรกันบ้าง

การปรับแต่ Firefox ให้ไหลลื่นหัวแตกกันเลย

เทคนิค การปรับแต่ง Firefox ให้เร็วขึ้นและกิน RAM น้อยลง[เห็นผลทันตา99.99%]
ก่อนอื่นให้เปิดโปรแกรม Firefox ขึ้นมาก่อน จะต่อเน็ตหรือไม่ต่อก็ได้ ในช่อง URL ให้พิมพ์คำว่า about:config ลงไป เพื่อทำการเข้าไปปรับค่าต่างๆ ของโปรแกรม
ให้ทำการแก้ไขค่าต่างๆ ดังนี้

network.http.proxy.pipelining จะเห็นว่าค่าเดิมเป็น false ให้ทำการแก้ไขให้เป็น true การแก้ไขทำได้โดย ดับเบิ้ลคลิกที่บรรทัดนั้นๆ ได้เลย

network.http.pipelining.maxrequests ให้ แก้ไขโดยการดับเบิ้ลคลิก จากนั้นจะมีหน้าต่างแสดงขึ้นมา เพื่อให้เราได้แก้ไขค่า (ซึ่งการแก้ไขในส่วนอื่นๆ ก็จะทำแบบเดียวกันนี้) ซึ่งค่าเดิมๆ คือ 4 ให้เราแก้เป็น 200

network.http.max-connections จาก 24 ให้แก้เป็น 64


network.http.max-connections-per-server จาก 8 ให้แก้เป็น 20

network.http.max-persistent-connections-per-proxy ค่า เดิมๆ คือ 4 ให้แก้ไขเป็น 10

network.http.max-persistent-connections-per-server ค่า เดิมคือ 2 ให้แก้ไขเป็น 10

network.http.request.max-start-delay ค่า เดิมๆ คือ 10 ให้เราแก้ไข เป็น 0 ในส่วนนี้เป็นช่วงกำหนดเวลา

network.http.proxy.version ค่า เดิมๆ คือ 1.1 แก้ไขเป็น 1.0

จาก นั้น คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง เลือกที่ New(ใหม่) แล้วเลือกที่ Integer(จำนวนเต็ม) จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นมา ให้เราใส่ชื่อเป็น nglayout.initialpaint.delay จากนั้น จะให้เราใส่ค่า value ให้เราใส่ค่าเป็น 0

สร้างตัวแปรใหม่ ขึ้นมา เป็นแบบ Integer(จำนวนเต็ม) ด้วยวิธีเดียวกับวิธีข้างบน ใส่ชื่อตัวแปร เป็น browser.sessionhistory.max_total_viewers ส่วนการกำหนดค่า ของตัวแปรตัวนี้นั้น จะเป็นในส่วนของการเก็บแคช ดังนั้นจึงควรใส่ตามปริมาณแรมของเครื่องนั้นๆ

แรม 32 MB ให้ใส่ 0
แรม 64 MB ให้ใส่ 1
แรม 128 MB ให้ใส่ 2
แรม 256 MB ให้ใส่ 3
แรม 512 MB ให้ใส่ 5

ถ้า หากว่า มีปริมาณแรมเกินกว่านี้ ให้ใส่ 8 และห้าม กำหนดค่าตัวแปร เกิน 8 เพราะถ้าใส่ค่ามากกว่านี้ Firefox จะปิดการทำงานของแคช

สร้างตัวแปร ใหม่ขึ้นมา เป็นประเภท Integer(จำนวนเต็ม) ชื่อตัวแปร Browser.cache.memory.capacity สำหรับค่าของตัวแปร จะแปรผันตามวิธีด้านบน หรือจะกำหนดค่าตัวแปรเท่ากันกับตัวบนเลยก็ได้

สร้างตัวแปรใหม่ โดยเลือกที่ Boolean ชื่อของตัวแปรใส่เป็น config.trim_on_minimize กำหนดค่าของตัวแปรเป็น True

จาก นั้นก็ปิด Firefox แล้วทำการเปิดขึ้นมาใหม่ ทดลองเข้าเว็บต่างๆ ดู จะพบว่าสามารถเปิดเว็บได้อย่างไหลลื่นขึ้น นอกจากนี้ ให้คลิกขวาที่ Shortcut ของ Firefox เลือก Properties ที่แถบด้านบนเลือกเป็น Shortcut สังเกตในช่อง Target ให้เราเคาะเว้นวรรคก่อน 1 ครั้ง แล้วใส่นี้ /Perfect:1 อย่างเครื่องของเรา ก็จะได้เป็น "C:\Program Files\Mozilla Firefox\firefox.exe" /Perfect:1


ซ่อนตัวจาก Network Neighborhood

ในบางกรณีคุณอาจไม่ต้องการให้ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปปรากฏใน หน้าต่างNetwork Neighborhood วินทิปที่จะแนะนำต่อไปนี้ช่วยคุณแก้ปัญหานี้ได้ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสีย อีก ไม่เชื่อคลิกไปดูสิ...
ในกรณีที่ผู้ ใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows XPต้องการลบชื่อตัวเองออกจากหน้าต่าง Network Neighborhoodสามารถทำได้ด้วยบรรทัดคำสั่งซุ่งมีขั้นตอนการเรียกใช้ดังนี้
1. เปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Run (คลิกปุ่ม Start->Run หรือกดปุ่ม Windows + R)
2. พิมพ์คำสั่ง net config server /hidden:yes
3. คลิกปุ่ม OK (หรือกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด)
เพียง แค่นี้ เวลาที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเปิดหน้าต่างNeighborhood เพื่อสืบค้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการพวกเขาก็จะไม่พบชื่อคอมพิวเตอร์ของ คุณอีกต่อไปสำหรับวิธีแก้กลับเป็นอย่างเดิม แค่เปลี่ยนคำว่า yes ให้เป็น noในบรรทัดคำสั่งที่ได้แนะนำไปแล้วข้างต้น ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ


วิธีแก้ไขปัญหาไฟรั่วจากคอมฯ

คุณเคยมีปัญหานี้บ้างไหม? วันดีคืนดีขณะใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่คุณก็ถูกไฟซ๊อต ไม่ทราบมาจากสาเหตุใด สำหรับผมเคยเจอแล้วบ่อย ๆสาเหตุอย่างหนึ่งคือ ความชื้นในตัวเราเอง (มาจากเหงื่อ)สำหรับอีกสาเหตุหนึ่งเกิดมาจากไฟรั่วภายในคอมพิวเตอร์ซึ่งก็มี วิธีการแก้ไขง่าย ๆ ดังนี้
วิธีการแก้ไข
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งห้องที่มีความชื้นสูง
- ต่อคอมพิวเตอร์เข้าไปเครื่องสำรองไฟ (UPS)
- ต่อสายคอมพิวเตอร์ที่มีสาย Ground (ต่อสายดิน)
- ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ควรรองด้วยฉนวนที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น พรม, กระดาษ เป็นต้น


เทคนิคป้องกันไฟล์สูญหายใน Micorsoft Word

ถ้าขณะที่เรากำลังตั้ง หน้าตั้งตาเขียนเอกสารอยู่นั้น เกิดไฟดับแล้วไม่ได้เซฟด้วยจะทำอย่างไรดี ? ตามปกติแล้ว โปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ดจะมีการตั้งให้บันทึกเอกสารอัตโนมัติทุกๆ 10 นาทีป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เอกสารที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำมาตั้งนานหายวับไป กับตาจากหลายสาเหตุ เช่น ไฟดับ เครื่องแฮงก์ มีคนมาเตะปลั๊กไฟ!
วิธีตั้ง คือ เข้าไปที่ Tools -> Options เลือก Saveแล้วทำเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Save AutoRecover info every:ซึ่งคุณสามารถตั้งเวลาในการบันทึกได้ตามต้องการ จากนั้นกด OKก็เป็นอันเรียบร้อย


Error Report ความผิดพลาดที่ไม่ต้องการให้แสดง

การใช้งาน Windows XP รวมถึงโปรแกรมอื่น ๆ ด้วย อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นซึ่งจะไปปรากฎในหน้าต่าง Error Report เพื่อแจ้งไปให้ไมโครซอฟท์ได้รับทราบแต่บางสิ่งอาจไม่มีความจำเป็นต้องแจ้ง เราสามารถปิดหน้าต่าง Error Reportได้ดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computer
2. เลือกรายการ Properties
3. เลือกแท็บ Advanced
4. คลิกปุ่ม Error Report
5. คลิกเมาส์ที่หน้า Disable error reporting
6. คลิก OK เพียงเท่านี้ก็สามารถปิด Error Report ได้แล้ว


การลบโปรแกรมที่ตกค้างใน Registry

มื่อท่านทำการ Uninstall (การลบโปรแกรมต่างๆออกจากวินโดวส์) จะมีรายชื่อของโปรแกรมที่ท่านลบตกค้าง
อยู่ที่ Registry ซึ่งเกิดจากความผิพลาดในการทำงานของวินโดวส์ แต่ท่านสามารถทำำการลบโปรแกรมที่ตกค้าง
ออกจาก Registry ของท่านได้โดยวิธีการดังนี้ครับ

1. ให้ท่านเปิดโปรแกรม Run แล้ว พิมพ์ Regedit แล้วคลิกที่ OK
2. ในหน้าต่าง Registry Editor ให้เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE / SOFTWARE / Microsoft / Windows /
Current Version / Uninstall

3. ให้ทำการลบรายชื่อโปรแกรมที่ท่านได้ทำการ Uninstall ไปแล้ว แล้วทำการปิดโปรแกรมได้เลยครับ

ซ่อนไอ คอนบนหน้า Desktop - Windows XP

สำหรับหลาย คนที่มีการ present งานบ่อยๆ ไม่ว่าจะใช้ notebook หรือ desktop pc และไม่ต้องการให้แสดงไอคอนที่เลอะเทอะ สามารถแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆ ของผมครับ ผมทดลองใช้กับ Windows XP ครับ ง่ายมากๆ ครับ เพียงคลิกเดียว

1. คลิ กขวา บนหน้าจอ Desktop
2. คลิกเลือกคำสั่ง Arrange Icons by
3. เลือกคำสั่ง Show Deskto Icons คลิกเลือกเครื่องหมายถูกออก


4. แค่นี้ ไอคอนบนหน้าจอก็จะหายไป
5. ถ้าต้องการเรียกกลับมา ให้ทำตามขั้นตอนข้างต้น และคลิกเลือก Show Deskto Icons ให้มีเครื่องหมายถูกข้างหน้า



แก้ปัญหาเครื่องขึ้นข้อความ Unmountable Boot Volume

จู่ๆ เปิดเครื่องคอมฯ ขึ้นมา ยังไม่ได้เข้าถึง Windows XP เลย ก็ปรากฏข้อความเกือบเต็มหน้า และมีข้อความแสดดงว่า "UNMOUNTABLE_BOOT_VOLUME" เครื่องค้างไปเลย ทำอะไรไม่ได้ ได้ทดลอง boot ใหม่ และพยายามเข้า save mode ก็ไม่ได้เช่นกัน พยายามทำ System Restore ก็ไม่ได้อีกเช่นกัน

สาเหตุที่อาจเป็นไปได้
มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่เข้ากับ Windows XP (ถ้าใช่ให้ลองถอดออกก่อนและลองติดตั้งใหม่) แต่ถ้ายังไม่ได้ ให้ทำวิธีดังนี้

การแก้ไข

1. บู๊ตด้วยแผ่น boot Windows XP
2. ระหว่างบู๊ตจะมีหน้าต่างแสดงด้านล่างให้กด ตัว R เพื่อเข้าระบบ (R=Repair) เราเรียกวิธีการนี้ว่า Recovery Console
3. จากนั้นรอสักพัก จะมีหน้าต่างให้เลือก partition ให้เลือก 1 C:\WINDOWS: หรือ
4. ถ้าไม่ได้มีหัวข้อให้เลือก ก็จะเข้า Drive C: เลย (เหมือนกับระบบ DOS)
5. จากนั้นพิมพ์คำสั่ง "CHKDSK /R" คำสังนี้จะทำการตรวจสอบดิกส์ และซ่อมให้อัตโนมัติ
6. รอจนกระทั่งเสร็จ 100% ทั้งนี้ ขึ้นกับปัญหาและขนาดของฮาร์ดดิกส์ว่าใหญ่ขนาดไหน สำหรับของผม 80 gb ก็ใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาที
7. ถ้าต้องการให้แน่นอนมากขึ้น หลังจาก CHKDSK เสร็จแล้ว ให้พิมพ์คำสั่ง "fixboot" ด้วย
8. เสร็จแล้ว ให้พิมพ์คำสั่ง Exit เพื่อออกจาก Repair และ Restart Windows ใหม่

ทิป:: คำสั่งที่ให้พิมพ์นั้น จะเป็นตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้ทั้งนั้น

10 ลางบอกเหตุฮาร์ดดิสก์ใกล้ไปจากเรา

ว่ากันว่าผู้ใช้บางท่านรู้สึกแย่มาก ๆ ที่อยู่ดี ๆ ฮาร์ดดิสก์สุดที่รักก็จากไปอย่างไม่หวนคืน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นมันมีสัญญาณเตือนให้ทราบอยู่ตลอดเวลา แต่ก็หาได้สังเกตไม่ ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีนิสัยรักการแบ็คอัพ ประเภทรักเดียวใจเดียวไม่สำรองข้อมูลไว้ที่อื่นกันบ้างเลย

ประเด็น ที่อยากจะเตือนผู้ใช้ก็คือ อย่ามั่นใจเทคโนโลยีมากเกินไป ควรสังเกตสังกามันบ้าง ต่อไปนี้คือ ลางบอกเหตุสำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ใกล้ตาย ซึ่งมีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน อ่านเรื่องนี้จบแล้วลองพิจารณาดูด้วยนะครับว่า ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อยู่มีอาการตามนี้บ้างหรือไม่

1. เสียงดังติ๊กๆ อย่านึกว่าเป็นเข็มนาฬิกา : ฮาร์ดดิสก์ทุกตัวในโลกนี้ไม่เคยติดตั้งนาฬิกาปลุกไว้ข้างใน และถ้ามันเป็นปกติดีก็ไม่ควรจะมีเสียงดังติ๊กๆ ให้ชวนระทึกขวัญด้วย เสียงดังที่ว่านี้ ถ้าจะให้พิจารณากันอย่างละเอียดคุณต้องเอาหูแนบกับฮาร์ดดิสก์ว่าเสียงมาจาก ส่วนใด เพราะการวิเคราะห์หาสาเหตุจะทำได้ตรงจุดจริง ๆ ถ้าเสียงมาจากตรงกลางให้สันนิษฐานว่ามาจากชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ที่อาจเกิด ความผิดพลาดหรือชำรุดขึ้น แต่ถ้าเสียงดังมาจากรอบ ๆ นอกในรัศมีของกล่องฮาร์ดดิสก์ ให้สันนิษฐานว่าปัญหามาจากหัวอ่านติดขัด ซึ่งอาจจะกำลังเคาะกับแผ่นจานอยู่ก็เป็นได้ ตรงนี้อันตรายมากเพราะทำให้ข้อมูลเสียหายได้ทั้งลูกเลย

2. ไฟดับบ่อยๆ ไม่ดีกับฮาร์ดดิสก์ : เครื่องคอมพ์ที่ไม่มี UPS มีโอกาสเสี่ยงที่อุปกรณ์ภายในจะเสียหายเร็วขึ้นถ้าหากมีไฟดับบ่อย ๆ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์นั้น เวลาที่ไฟฟ้าดับอย่างรวดเร็วหัวอ่านข้างในอาจจะยังไม่กลับสู่บริเวณที่ ปลอดภัย หรือบางทีหัวอ่านอาจจะไปกระแทกกับแผ่นจานในช่วงที่ไฟฟ้ากระชากขึ้นมาทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ นอกจากนี้หากไฟตกบ่อย ๆ แล้วดับลงก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะฮาร์ดดิสก์จะพยายามทำงานตามหน้าที่หากมีกำลังไฟเพียงพอ แต่ถ้าในระหว่างนั้นไฟค่อยๆ ตกลงและดับไป ตำแหน่งของหัวอ่านจะยังไม่กลับที่เดิมแน่ ดังนั้น ควรติดตั้ง UPS ไว้จะปลอดภัยทั้งฮาร์ดดิสก์เองและอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยเช่นกัน

3. เครื่องแฮงก์บ่อยๆ : ปัญหาเครื่องคอมพ์ค้างนั้น มีหลายสาเหตุครับ นอกจากซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ Error แล้ว อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ก็สามารถทำให้เครื่องค้างหรือหยุดนิ่งไม่ไหวติงได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ฮาร์ดดิสก์ นั่นเอง ทำไมฮาร์ดดิสก์ถึงค้างได้ เป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยากครับ อย่างแรกเลยก็คือ กำลังไฟที่จ่ายไม่เพียงพอ ถ้าเครื่องของคุณมีอุปกรณ์ต่อพ่วงมาก มีฮาร์ดดิสก์และไดรฟ์ออปติคอลหลายตัว แต่เพาะเวอร์ซัพพลายใช้ของราคาถูก จ่ายไฟไม่พอ แบบนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ฮร์ดดิสก์ค้างได้เลย และอย่างที่สองมาจากอุปกรณ์ภายฮาร์ดดิสก์ในทำงานผิดพลาด ซึ่งตรงจุดนี้ตัวระบบปฏิบัติการเองสามารถส่งผลต่อเนื่องมายังฮาร์ดดิสก์ได้ โดยตรง เพราะยังไงเสียระบบปฏิบัติการก็เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์นั่นเอง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับส่วนหนึ่ง ย่อมส่งผลไปยังส่วนที่เหลือได้ไม่ยาก

4. ทำไมมันร้อนเร็วจัง : หลังจากที่คุณเปิดสวิตช์เครื่องคอมพ์ได้ไม่นาน และพบว่าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีอุณหภูมิขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ แต่ยังคงทำงานต่อไปได้ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงความผิดปกติที่พบขึ้นมาทันที อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะฮาร์ดดิสก์จะร้อนขึ้นเมื่อมีการเริ่มเขียน-อ่าน ข้อมูลอย่างจริงๆ จังๆ แค่เปิดเครื่องแล้วอยู่ๆ ก็ร้อนขึ้นขนาดนี้ไม่ดีแน่ครับ อาการที่ว่านี้มาจากอุปกรณ์ภายในโดยตรงที่ส่งความร้อนออกมา มอเตอร์อาจได้รับแรงดันไฟมากเกินไปหรือไม่เสถียรพอจนทำงานผิดพลาด นอกจากนี้หากมีชิ้นส่วนในแผงวงจรเกิดชำรุดเสียหายขึ้นมาก็สามารถแสดงอาการ แบบนี้ได้เช่นกัน

5. โปรแกรมค้างบ่อยๆ : สำหรับโปรแกรมที่กำลังพูดถึงนี้ ผมเหมารวมไปถึงระบบปฏิบัติการด้วยนะครับ เวลาที่คุณเปิดโปรแกรมสักตัวขึ้นมาแล้วมันหยุดนิ่งหรือค้างไปเฉยๆ นั้น หนึ่งในข้อสันนิษฐานที่อยากให้ทุกท่านได้ใส่ใจก็คือ ปัญหาที่ว่าอาจมาจากฮาร์ดดิสก์โดยตรง ถ้าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีแบดเซกเตอร์ (Bad Sector) กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งฮาร์ดดิสก์ ผมกล้าฟันธงได้เลยว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โปรแกรมหรือแม้แต่ระบบปฏิบัติ การค้างได้ เป็นสัญญาณเตือนภัยที่คุณสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด

6. ไฟติด แต่ไฟล์ดับ! : ถ้าคุณต่อสายสัญญาณไฟแสดงสถานะของฮาร์ดดิสก์ในเมนบอร์ดถูกต้อง หลอด LED ด้านหน้าเคสต้องแสดงอาการให้เห็นเวลาที่มีการเขียนอ่านข้อมูลเกิดขึ้น หลอดไฟดวงเล็ก ๆ นี้ช่วยให้คุณสังเกตความผิดปกติของฮาร์ดดิสก์ได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง ถ้าในระหว่างที่มีการเขียนข้อมูลหรือไฟล์ลงฮาร์ดดิสก์ หลอดไฟย่อมกะพริบอยู่ตลอด แต่หลังจากคุณกลับเข้าไปดูข้อมูลที่เขียนหรือโอนถ่ายลงไปกลับพบว่าทุกอย่าง ว่างเปล่า ไม่มีอะไรถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์เลย แล้วทำไมหลอดไฟถึงได้กะพริบแบบนั้น ตรงนี้บอกอะไรเราได้บ้าง อย่างแรกเลยคือ เกิดความผิดพลาดในระดับโครงสร้างการจัดเก็บไฟล์ ปัญหาที่ว่านี้อาจมาจากระบบ FAT หรือแม้แต่โครงสร้างพาร์ทิชันเสียหาย ไฟที่กะพริบแสดงถึงการโอนข้อมูลไปยังตำแหน่งของเซกเตอร์ที่ใช้เก็บข้อมูล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเขียนลงไปได้สำเร็จจริงๆ ยิ่งถ้าคุณปิดหน้าจอไว้ในระหว่างที่มีการโอนไฟล์ใหญ่ๆ หลอดไฟที่กะพริบอาจทำให้คุณเข้าใจว่าระบบกำลังทำงานอยู่ ตรงนี้ถ้าไม่เปิดดูหน้าจอจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

7. ฮาร์ดดิสก์ตีกลอง : สำหรับอาการที่ว่านี้มีความแตกต่างจากข้อที่ 1 โดยสิ้นเชิง ถ้าคุณได้ยิ้นเสียงรัวกลองดังกึกก้องมาจากฮาร์ดดิสก์ และไม่ยอมหยุดซักที อาการแบบนี้บอกได้อย่างเดียวว่ามันจะขอลาแล้วละครับ เสียงดังที่คล้ายกับการตีกลองนั้นมาจากหัวอ่านไปกระทบกับจานอย่างจัง หรือแม้แต่หัวอ่านเลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งล็อก จนไปกระกบกับแผ่นจาน ถ้าเป็นแบบนี้ข้อมูลทั้งหมดในอาร์ดดิสก์อาจได้รับความเสียหายจนถึงขั้นกู้ ไม่ได้เลย ดังนั้น ถ้าเสียงกลองเพิ่งเริ่มรัวให้คุณรีบพาฮาร์ดดิสก์ไปซ่อมด่วนเลยนะครับ!

8. สแกนดิสก์ไม่ผ่าน : การตรวจสุขภาพฮาร์ดดิสก์ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ สแกนมันให้ทั่วทั้งจาน ไม่ว่าคุณจะใช้บริการจากยูทิลิตีบนวินโดวส์เอง หรือโปรแกรมจากเธิร์ดพาร์ตี้ก็ตาม หากสแกนไม่ตลอดรอดฝั่งแล้วละก็ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้เลยว่าฮาร์ดดิสก์กำลังมีปัญหาเกิดขึ้น สาเหตุก็มีทั้งโครงสร้าง FAT เสียหาย รวมถึงตารางพาร์ทิชันที่อาจเสียหายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ หากฮาร์ดดิสก์มีแบดเซกเตอร์ ตรงจุดสำคัญๆ ก็จะส่งผลให้การสแกนฮาร์ดดิสก์ตรงตำแหน่งพื้นที่นั้นๆ ไม่ผ่านด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ค้างนิ่งไปเลยก็มีให้เห็นด้วย

9. สั่งดีแฟรกแต่ไม่ฉลุย : ดีแฟรก หรือการจัดเรียงข้อมูลหรือไฟล์ที่ไม่ต่อเนื่องซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ฮาร์ดดิสก์ให้กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้ก็จริง แต่ถ้าการดีแฟรกไม่ผ่านฉลุยหรือไม่ยอมจบสิ้นซักทีล่ะ ปัญหาจะมาจากไหนได้ นอกจากฮาร์ดดิสก์นั่นเอง ถ้าคุณพบอาการที่ว่านี้ในระหว่างการดีแฟรกฮาร์ดดิสก์นั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ถึงสุขภาพฮาร์ดดิสก์ของคุณเริ่มไม่ดีแล้ว ความเป็นไปได้ของปัญหามีอยู่สองอย่างครับ อย่างแรกมาจากตัวอุปกรณ์เองที่อาจชำรุดเสียหาย และอย่างที่สองมาจากโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลเกิดความเสียหายใน ระดับซอฟต์แวร์ ตรงนี้เราไม่สามารถใช้การดีแฟรกมาช่วยได้นอกจากต้องสร้างพาร์ทิชันและฟอร์ แมตโครงสร้าง FAT ขึ้นมาใหม่

10. สร้างพาร์ทิชันไม่ได้ : สัญญาณอันตรายในข้อสุดท้ายนี้ค่อนข้างรุนแรงครับ ถ้าคุณเผอิญกำลังประสบอยู่ละก็ ขอบอกเลยว่าอาจจะต้องทำใจเอาไว้ด้วย ถ้าอาการที่ว่านี้เกิดกับฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่แกะกล่องคงไม่ต้องซีเรียสอะไร เพราะยังไงก็เคลมได้ชัวร์ๆ แต่ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ที่หมดประกันไปแล้วล่ะ สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้เวลาที่ไม่สามารถสร้างพาร์ทิชันขึ้นมาได้เลย ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมใดๆ ก็ตาม การตีความหมายไม่ควรอยู่ในวงแคบๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์พังแน่ ๆ หรือมันเพิ่งหล่นมาใช้ไหมนี่ ปัญหาอาจจะมาจากแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ซึ่งหากคุณหาอะไหล่ที่เป็นรุ่นเดียวกันมาถอดเปลี่ยนเข้าไปใหม่ ก็สามารถใช้งานฮาร์ดดิสก์ได้แล้ว แต่ถ้าแผ่นจานเสียหายละก็หมดสิทธิ์ทันทีครับ ต้องกินยาทำใจอย่างเดียว

ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต ช่วยลดปัญหาไวรัสได้

เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จากนั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไวรัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิดโปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ เพียงทำตามรายละเอียดข้างล่างนี้
วิธีกำหนดให้ลบไฟล์ขยะจาก อินเตอร์เน็ตแบบอัตโนมัติ
1.คลิกเมนู Tools
2.เลือกคำสั่ง Internet Options
3.คลิกเลือกแท็ป Advanced
4.เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Security
5.จากนั้น คลิกหัวข้อ Empty Temporaly Internet Files Folder when browser is closed
6.กดปุ่ม Apply อีกครั้งเพื่อยืนยัน
7.แล้ว นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม::
ส่วนดีของการที่โปรแกรม IE มีการ download ไฟล์มาเก็บไว้ในเครื่องของเรา ทำให้การใช้งานในครั้งต่อไป สามารถเปิดดูรายละเอียดในเว็บนั้นๆได้เร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการ download ซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ควรเปรียบเทียบผลดี ผลเสียกันเอาเองน่ะครับ แต่ถ้าให้ผมฟันธงเลย ขอตอบว่าลบไปเลยดีกว่าครับ..

นักท่องเน็ตอย่าพลาด ! อ่านตรงนี้ก่อน "การรักษาความปลอดภัยในการเล่นอินเตอร์เน็ต" หลาย ๆ ท่านคงแปลกใจว่า เล่นเน็ตมาตั้งนาน ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ ลองอ่านข้อมูลด้านล่างเหล่านี้เสียก่อน แล้วท่านจะพบว่า มันไม่จริงอย่างที่คิดไว้แล้ว
1.Auto Complete
หลาย ๆ ท่านที่ใช้ internet ในร้านค้าทั่วไป หรือใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันผู้อื่น เคยทราบไหมว่า ทำไมบ้างครั้ง เวลากรอกแบบฟอร์มในบางเวป ถึงมีความข้อความขึ้นมาใหัอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องกรอกจนเสร็จ นั่นเป็นเพราะว่าโปรแกรม I.E. มีการเก็บข้อมูลที่คุณเคยกรอกไว้ โดยมีฟังก์ชั่น ที่ช่วยในการกรอกข้อมูล นั่นคือ Autocomplete แล้วลองคิดดู ถ้ามีบุคคลอื่น นำข้อมูลของคุณไปใช้ คุณจะคิดอย่างไร ? ไม่ยากครับ เรามีวิธีแก้ไขให้ดังนี้

1.คลิกไปที่เมนู Tools
2.เลือก Internet Options
3.คลิกแท็ปเลือก Contents
4.คลิกเลือกปุ่ม AutoComplete
5.คลิก ยกเลิกออปชั่น Forms


2.Clear History
เวลา ท่องเวปแล้ว ไม่อยากให้ใครทราบว่า เราเคยไปเวปไซท์ ไหน ๆ มาบ้าง ยิ่งบางเวปอาจไม่เหมาะที่จะให้เด็ก ๆ หรือเจ้านายของคุณได้รับรู้ จะทำอย่างไรดี ไม่ยากครับ เรามีวิธีมาบอก

1.คลิกไปที่เมนู Tools
2.เลือก Internet Options
3.คลิกแท็ปเลือก General
4.คลิกปุ่ม Clear History


Cookies 3.ไม่ใช่ขนมน่ะครับ
Cookies เป็น Text file เล็กๆที่เว็ปเซิร์ฟเวอร์ส่งมายังเครื่องคอมฯของคุณ ทำหน้าที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ในรูปของไฟล์ เพื่อจดจำรหัสผ่าน รายละเอียดการเข้าไปใช้งานในเวปนั้น ๆ ซึ่งจุดนี้เอง ทำให้เจ้าของเวป หรือพวกแฮกเกอร์ สามารถเข้าไป ตรวจสอบ แก้ไข หรือทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ เรามีทางแก้ไขครับ

1.เข้าไป โปรแกรม Windows Explorer
2.เข้าไป folder C:\winodws\cookies ลบ files ทั้งหมดที่อยู่ใน folder นี้
3.เข้าไป folder C:\winodws\Temporary Internet Files ลบ files ทั้งหมดที่อยู่ใน folder นี้
4.อาจะใช้โปรแกรม Disk Clean up ซึ่งอยู่ในเมนู Accessories ช่วยก็ได้


4.Security Level
การกำหนดระดับความรักษาความปลอดภัย ในระดับต่างๆ ง่าย ๆ ครับ เพียงแค่คลิกเลือกระดับที่ต้องการ High, Meduium, Medium-Low, และ Low ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีคำอธิบายไว้ให้ และถ้าท่านเป็นผู้ชำนาญในการใช้ internet อาจเลือกหัวข้อ Custom เพื่อกำหนดรายละเอียดย่อย ๆ ด้วยตนเองได้อีกด้วย

1.คลิกไปที่เมนู Tools
2.เลือก Internet Options
3.คลิกแท็ปเลือก Security
5.คลิกแท็ปเลือก Default Level
5.ปรับ ระดับความรักษาปลอดภัยตามต้องการ

ระวัง ไวรัสจากการค้นหา serial number
ผมเป็นผู้หนึ่งที่ชอบทดสอบการใช้โปรแกรมมานาน ส่วนหนึ่งได้ค้นคว้าหาข้อมูลเองจากอินเตอร์เน็ต อีกส่วนหนึ่งก็อ่านจากนิตยสารคอมพิวเตอร์ หลายๆ ฉบับมักมีการแนะนำการใช้โปรแกรมต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Shareware มีอายุการใช้งานไม่เกิน 30 วัน ผู้เขียนมักแนะนำให้ไปหา Serial Number หรือ Crack จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่สะดวกในการที่เราต้องการทดสอบโปรแกรมแบบ เต็มๆ

อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ได้มีการทดสอบ ปรากฏว่า เกือบ 100% มักประสบปัญหาไวรัสประเภทต่างๆ แอบแฝงเข้ามา ร่วมทั้งสื่อโฆษณาลามก โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร ไวรัสก็จะเข้ามาติดตั้งในเครื่องคอมฯ ของเราเอง และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ถ้าคุณทำงานในองค์กรที่มีระบบเครือข่าย อาจเกิดปัญหาที่คุณอาจคิดไม่ถึงได้ครับ เรื่องนี้ฝากให้ระวังกันไว้ด้วย..

คำ แนะนำเบื้องต้นก็คือ ก่อนทำการค้นหา serial number นั้น ต้องติดตั้งโปรแกรม anti-virus แบบฉบับสมบูรณ์ มีระบบ Firewall ที่แน่นหนาพอ ซึ่งอาจช่วยได้ ณ ระดับหนึ่ง เท่านั้น

กล่อง เครื่องมือต่อสู้ Spam ของ Twitter

Twitter ได้เพิ่มกล่องเครื่องมือ ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อต่อสู้กับ Spam โดยที่จะทำธงเครื่องหมายระบุ
ชุมชนสามารถช่วยป้องกัน Spam โดยแจ้งปัญหาโดยคลิก "Report as spam" จากนั้นทีมงานจะทำการตรวจสอบ
และ ดำเนินการต่อไป และเมื่อเรารายงาน รายชื่อนั้นจะถูกบล็อก ไม่สามารถส่งหาคุณได้อีก



เครื่องมือต่อสู้กับ Spam นี้ จะช่วยเราเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยในการใช้งานของ Twitter

รู้ทัน กล้องแอบถ่าย ก่อนเป็นเหยื่อรายต่อไป!!

กลายเป็นเรื่องถกเถียงในวงกว้างอย่างหนาหู เกี่ยวกับการป้องกันกล้องแอบถ่าย หลังจากมีข่าวเจ้าของหอพักแอบนำกล้องวงจรปิดไปซุกซ่อนไว้ในห้องของผู้เช่า เพื่อซุ่มดูพฤติกรรมทั้งนักศึกษาสาวและหนุ่มเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นภัยใกล้ตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งในที่สาธารณะและ พื้นที่ส่วนตัว
ไม่แน่ตอนนี้มันอาจจ้องมองคุณอยู่!!! เนื่องจากขนาดของกล้องพัฒนาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถตบตาเหยื่อไม่ให้สงสัยได้ และเพื่อให้รู้เท่าทันวิวัฒนาการรวมถึงกลวิธีของนักแอบถ่าย จึงเป็นเรื่องที่ทุกคน ควรรู้และคลี่คลายถึงเคล็ดลับการตรวจจับอย่างถูกต้อง

ในมุมของ ผศ.ศิริวัฒน์ หงส์ทอง หัวหน้าภาควิชา เทคโนโลยีวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มองถึงกล้องแอบถ่ายที่มิจฉาชีพนิยมว่า ส่วนใหญ่เป็น กล้องธรรมดาแบบไร้สาย โดยถ่ายภาพวิดีโอได้เมื่อพื้นที่นั้นมีแสงสว่าง กระบวนการทำงานใช้ถ่านไฟฉายหรือถ่านนาฬิกาจ่ายไฟให้กับตัวกล้อง และส่งสัญญาณไปยังเครื่องรับที่แปลสัญญาณเป็นภาพบนจอทีวี ซึ่งระยะการทำงานของเครื่องส่งและรับจะไม่ไกลกว่า 15 เมตร ขณะเดียวกันกล้องชนิดนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสายไฟรับส่งข้อมูลไปยังปลาย ทางในระยะที่คนร้ายได้โยงสายไฟ

ที่ผ่านมากล้องธรรมดาที่ใช้ในการแอบถ่ายส่วนใหญ่มีการดัดแปลงถอดชิ้นส่วนตัว เครื่องที่มีขนาดใหญ่ออกเหลือเพียงตัวกล้องเพื่อง่ายแก่การหลบซ่อน แต่ขณะนี้ มีกล้องแอบถ่ายดัดแปลงเป็นนาฬิกา กระดุม ปากกา และไฟแช็ก ซึ่งแหล่งผลิตส่วนใหญ่อยู่ในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
อีกประเภทเป็นกล้องอินฟราเรด มีกระบวนการทำงานด้วยการยิงแสงอินฟราเรดไปยังวัตถุเป้าหมายแล้วแสงเหล่านั้น จะสะท้อนกลับมาที่กล้อง ภาพที่ออกมามีลักษณะขาวดำ แต่จะพิเศษกว่ากล้องทั่วไปตรงที่สามารถส่องเห็นวัตถุแม้ไม่มีแสง กลุ่มของนักแอบถ่ายมักไม่นิยมใช้กล้องแบบนี้เนื่องจากไม่มีสี แต่ในบางกรณีกล้องบางรุ่นออกแบบมาให้ใช้ได้ทั้งกล้องธรรมดาที่มีสีกับกล้อง อินฟราเรดที่ใช้ได้เมื่อเวลาไม่มีแสง

ด้านการสังเกตกล้องแอบ ถ่าย ผศ.ศิริวัฒน์ ให้ความคิดเห็นว่า ค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากกล้องมีขนาดเล็ก ขณะเดียวกันวิธีการสำรวจที่ว่า หากมีกล้องแอบถ่ายแบบไร้สาย เมื่อใช้โทรศัพท์มือถือจะไม่มีสัญญาณหรือไม่สามารถโทรฯออกได้ ซึ่งเป็นไปได้ยากเนื่องจากกล้องแอบถ่ายส่วนใหญ่ใช้คลื่นความถี่ในการส่งสูง กว่าคลื่นมือถือ ในบางกรณีที่คลื่นของกล้องแอบถ่ายกับมือถือมีความถี่ชนกัน จึงทำให้โทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณหรือโทรฯออกไม่ได้

ส่วนอีก กรณีที่ให้ทด สอบด้วยการนำกล้องมือถือถ่ายตรงจุดต้องสงสัยว่ามีกล้องแอบถ่ายซ่อนอยู่หรือ ใช้รีโมตเครื่องใช้ไฟฟ้ากดปุ่มใดก็ได้ตรงบริเวณที่สงสัย ซึ่งเมื่อภาพที่ถ่ายออกมาจะมีจุดสีแดง ในทางวิชาการจะไม่สามารถใช้ได้กับกล้องธรรมดาทั่วไป แต่สามารถช่วยได้ในกรณีเป็นกล้องแอบถ่ายแบบอินฟราเรด

ขณะที่ กล้องแอบถ่ายที่มีการเดินสายไฟ เหยื่อต้องใช้การสังเกตสิ่งผิดปกติโดยรอบ เช่น การเดินสายไฟที่พวกนี้จะเดินสายไฟทีหลังและไม่มีความเรียบร้อย ซึ่งหากให้ดีควรไล่สายไฟแต่ละเส้นว่าได้รับการต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไม่ ด้านในพื้นที่สาธารณะต้องสำรวจวัตถุต้องสงสัยที่วางอยู่ในระยะ 2 เมตร เนื่องจากกล้องพวกนี้จับระยะได้ไกลสุด

“ด้วย ความที่กล้องแอบถ่ายเหล่านี้หาซื้อได้ง่าย ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพสามารถหาอุปกรณ์มาสนองความต้องการที่มีให้เลือกได้หลาย รูปแบบ คนไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีก็สามารถนำมาดัดแปลงใช้ได้ จึงเป็นอีกปัญหาสังคมที่ต้องจับตามอง ดังนั้นเหยื่อควรสำรวจมุมห้องเช่น ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เป็นจุดล่อแหลมของการแอบถ่ายหรือกระจกที่ลองเสื้อ ผ้าซึ่ง มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มคนเหล่านี้จะนำกล้องไปซ่อนไว้หลังกระจกที่ด้านใน สามารถมองเห็นคนด้านนอกได้ ดังนั้นผู้ที่ใช้ห้องลองเสื้อผ้าสาธารณะควรมีเสื้อผ้าปกปิดจุดสำคัญไว้บ้าง” ผศ.ศิริวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

พ.ต.ท.ปัญญา ชะเอมเทศ สารวัตรกอง 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ของวงจรการแอบถ่ายว่า มีความรุนแรงมากขึ้น เป็นผลจากมีขบวนการแอบถ่ายนำข้อมูลของผู้เสียหายไปเผยแพร่เพื่อเก็บเงินกับ ผู้เข้าชมในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีหลายคนนิยมใช้บริการเหล่านี้

“พัฒนาการ ของมิจฉาชีพจากเดิมถ่ายภาพระยะไกลโดยใช้การซูมกล้องเป็นหลัก แต่ขณะนี้มีอุปกรณ์กล้องขนาดเล็กที่ดัดแปลงมาให้กลุ่มคนเหล่านี้ใช้อย่าง แพร่หลาย สามารถสั่งซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ตอย่างสะดวก ซึ่งในทางกฎหมายหากผู้ขายมีส่วนรู้เห็นและโฆษณาเชิญชวนให้ผู้ซื้อสินค้าไป กระทำผิดจะมีความผิดร่วมด้วยกับผู้ต้องหาในฐานะมีส่วนรู้เห็น โทษสูงสุดตาม พ.ร.บ.ควบคุมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตจำคุก 5 ปี”

ที่ผ่านมา การเอาผิดผู้กระทำผิดทางกฎหมายมักมีโทษน้อย เนื่องจากผู้เสียหายไม่กล้าเข้ามาแจ้งความเพราะกลัวอับอายทำให้ผู้กระทำ ผิดหลายรายยังกลับไปทำผิดใหม่อีก ดังนั้นจึงอยาก ให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความผู้กระทำผิดเพื่อให้เข็ดหลาบ ซึ่งสามารถฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา

นอกจากนี้ พื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สาธารณะที่สาว ๆ ควรระวังตัวด้วยการแต่งตัวให้มิดชิด หรือหากต้องทำกิจกรรมส่วนตัวต่าง ๆ ก็ควรสังเกตสิ่งรอบข้างต้องสงสัย ซึ่งหากไม่แน่ใจควรหยิบมาดูเพื่อตรวจสอบว่า สิ่งเหล่านั้นมีกล้องแอบซ่อนอยู่หรือไม่ ขณะที่พื้นที่ส่วนตัว เช่น โรงแรมและห้องเช่าราคาถูก หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในเกรดต่ำ ผู้ใช้งานควรระวังตรวจสอบห้องในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นบนเตียงหรือโต๊ะ เครื่องแป้ง รวมทั้งห้องน้ำ เพราะเป็น จุดล่อแหลมที่มิจฉาชีพมักซ่อนกล้อง โดยเฉพาะแจกันดอกไม้ที่วางบนทีวีซึ่งเป็นอีกจุดที่คนร้ายสามารถมองเห็นภาพ ของเหยื่อบนเตียงได้ชัดเจน

“การแอบถ่าย ในพื้นที่จุดล่อแหลม เช่น ห้องพัก ต่าง ๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้นจากนักแอบถ่าย เพราะเขาสามารถมองเห็นการกระทำตลอดเวลาของเหยื่อ ซึ่งพวกที่ทำเป็นขบวนการส่วนใหญ่ตอนนี้นิยมทำแบบนี้อยู่มาก ผู้ที่ใช้บริการควรเพิ่มความระวังในจุดนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง”

พ.ต.ท.ปัญญา มองแนวทางแก้ปัญหาว่า ต้องพยายามตัดกระบวนการที่เป็นตัวกลางอย่างเว็บไซต์ที่เปิดให้โหลดคลิปเหล่า นี้ เพราะเมื่อเว็บไซต์ให้บริการลดลง กลุ่มคนที่แอบถ่ายก็จะไม่มีเนื้อที่ในการเผยแพร่

ด้วยเทคโนโลยี ที่สะดวกสบายในการใช้งาน บางครั้งกลับเป็นอันตราย หากผู้ซื้อนำมาใช้ผิดวิธี.

สำรวจสถิติเว็บโป๊ออนไลน์

จาก การหาข้อมูลสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ที่มีความล่อแหลมทางเพศ 2 เว็บไซต์ที่มีการรวบรวมสถิติของผู้เข้าชมพบว่า หัวข้อที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ คลิปแอบถ่าย ที่มีผู้เข้าไปดาวน์โหลดมากสุดถึงหลักแสน รองลงมาเป็น ภาพโป๊ มีผู้เข้าไปชมมากสุดกว่าหมื่นคน ส่วนการ์ตูนโป๊ ก็มีผู้เข้าชมหลายหมื่นคน เป็น ที่น่าสังเกตว่า ภาพหลุดดารา กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเว็บ

หัวข้อที่มีผู้เข้าชมสูงสุดของ 2 เว็บไซต์ ออกไปในทำนองเดียวกัน ซึ่งจำนวนผู้เข้าชมแตกต่างกันตามความนิยมของเว็บไซต์ แต่ยังมีเว็บไซต์อีกหลายแห่งที่ยังเปิดให้โหลดอย่างโจ่งครึ่ม นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การ์ตูนและคลิปที่เป็นของกลุ่มรักร่วมเพศก็ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ เข้าชมเช่นกัน

ขณะเดียวกันหากย้อนหลังสถิติผู้เข้าชมที่สมัคร เป็นสมาชิกเว็บไซต์ดังกล่าวย้อนหลัง 5 เดือน พบว่า ทั้งสองเว็บมีสถิติต่างกันมาก เพราะเว็บไซต์หนึ่งมีผู้สมัครไม่ต่ำกว่าพันคนในแต่ละเดือน ส่วนอีกเว็บไซต์มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่มากสุดกว่าพันคน แต่บางเดือนก็อยู่ในหลักร้อย

มาแล้ว!!!โน้ตบุ๊ก 3D "มัลติทัช" Win 7

รายงานข่าววันนี้ เอเซอร์ (Acer) ประกาศเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ออกมา 2 รุ่นด้วยกัน โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 7 ซึ่งได้แก่ Aspire 5738PG จะเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกที่มาพร้อมกับการแสดงผล 3D บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว และ Aspire Timeline AS1810TZ หน้าจอขนาด 11.6 นิ้วที่ให้สัมผัสบางเบาน่าใช้เหมือนเดิม


Aspire 5738PG เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของโลกที่สามารถแสดงผล 3D สำหรับการเล่นเกมส์ หรือชมภาพยนต์ โดยมาพร้อมกับแว่นตาพิเศษที่ใช้งานร่วมกัน นอกจากนี้มันทำงานด้วยระบบหน้าจอสัมผัสอีกต่างหาก รองรับการทำงานแบบ"มัลติทัช" ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้สองนิ้วในการควบคุมการทำงานของอินเตอร์เฟซบนหน้าจอได้ เรียกได้ว่า สอดรับกับความสามารถของ Windows 7 ได้อย่างลงตัวทั้งสเป็ก และคุณสมบัติการทำงาน
Acer Aspire AS5738PG-6306 โน้ตบุ๊กหน้า"จอมัลติทัช"

จอ มัลติทัช HD CineCrystal LED ขนาด 15.6 นิ้ว (16:9, 1366x768)
Windows 7 Home Premium 64-bit
Intel Core 2 Duo Processor T6600 (2.2GHz, 2MB L2 Cache, 800MHz FSB)
การ์ดกราฟิกเป็น ATI Radeon HD 4570 หน่วยความจำ 512MB
หน่วยความจำ DDR2 667MHz ขนาด 4GB (Dual Channel Memory)
ฮาร์ดดิสก์ SATA 320GB
8X DVD-Super Multi Double-Layer Drive
แป้นพิมพ์หมาย เลขโดยเฉพาะ (ไม่ผสมอยู่กับคีย์อื่นๆ)
ลำโพงสเตอริโอเสียงรอบทิศด้วย Dolby 10
HDMI 1 พอร์ต และ USB 2.0 4 พอร์ต
น้ำหนักเครื่อง 6.16 ปอนด์ (ประมาณ 2.8 กิโลกรัม)
$799.99 (ประมาณ 29,000 บาท)
ส่วน Aspire Timeline AS1810TZ ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ทำให้มันดูเหมือนเน็ตบุ๊ก แต่ความจริงมันเป็นโน้ตบุ๊กทีมีขนาดเล็กกว่า เพราะแทนที่จะใช้ซีพียูเป็น Intel Atom รุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Dual-Core Intel SU7300 ซึ่งยังคงคอนเซปต์บางเฉียบ และมีน้ำหนักเบาเหมือนเดิม เพียงแต่ออกมาในขนาดเล็กแบบ"เน็ตบุ๊ก"เท่านั้น โน้ตบุ๊กทั้งสองรุ่นนี้มีกำหนดการวางตลาดตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งก็คือ วันที่ระบบปฏิบัติการ Windows 7 เปิดตัวนั่นเอง สำหรับรายละเอียดของทั้งสองรุ่นมีดังนี้

Acer Aspire Timeline AS1810T-8679
Intel Core 2 Duo Processor SU7300 (1.3GHz, 3MB L2 cache, 800MHz FSB)
Windows 7 Home Premium 64-bit
จอแอลอีดี HD Widescreen (16:9, 1366x768)
ชิปเซ็ต Mobile Intel GS45
หน่วยความจำ DDR2 4GB (Dual-Channel 667MHz)
ฮาร์ดดิสก์ SATA 320GB (5400RPM)
Intel WiFi Link 1000 802.11b/g/Draft-N WiFi
Bluetooth 2.1+EDR
HDMI 1 พอร์ต, USB 2.0 3 พอร์ต
ทัชแพดสนับสนุน Multi-Gesture
น้ำหนัก 3.08 ปอนด์ (1.4 กิโลกรัม)
$599.99 (ประมาณ 22,000 บาท)
สนับสนุนโดย: COMMART COMTECH 2009 งานแสดงมหกรรมคอมพิวเตอร์ระดับประเทศ จัดขึ้นวันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน 2552 ณ. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เพิ่มประสิทธิภาพให้ฮาร์ดดิสก์ SATA

ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SATA หรือเปล่า ? ถ้าใช่... ก็สามารถรีดประสิทธิภาพความเร็ว ของการทำงานได้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยความเร็วที่เพิ่มขึ้นของฮาร์ดดิสก์มาจากการเปิดการทำงานของ write caching ซึ่งมันจะทำให้ข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงบนฮาร์ดดิสก์ถูกบันทึกลงบนหน่วยความจำแคชที่มีความเร็วมากกว่า ก่อนที่จะเขียนลงฮาร์ดดิสก์อีกทีหนึ่ง โดยหลังจากข้อมูลดังกล่าวถูกบันทึกลงแคชแล้ว มันก็จะแจ้งกลับไปยังระบบปฏิบัติการว่า เขียนข้อมูลเสร็จแล้ว เพื่อให้วิสต้าสามารถทำงานอื่นต่อไปได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้วิธีนี้กับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบไฟสำรอง เนื่องจากมันเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูล หากไฟดับในขณะที่ข้อมูลในแคชยังไม่ถูกเขียนลงบนฮาร์ดดิสก์ แต่ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กก็หายห่วงเรื่องนี้ไป ยกเว้นแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กจะหมดเสียก่อน

สำหรับวิธีเพิ่มความเร็วให้ กับการทำงานของฮาร์ดดิสก์ SATA มีดังนี้

- คลิ้กปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิ้ก System and Maintenance แล้วเลือก Device Manager
- คลิ้กเครื่องหมายบวกหน้ารายการ Disk Drives
- คลิ้กขวาบนไอคอนฮาร์ดดิสก์ SATA เลือก Properties
- คลิ้กแท็บ Policies สังเกตในกรอบ Write Cachine and Safe Removal เลือกเช็กบ็อกซ์หน้าหัวข้อ Enable advanced performance
- คลิ้กปุ่ม OK แล้วปิดหน้าต่าง Device Manager

เพียงแค่นี้ ประสิทธิภาพการทำงานของระบบก็จะเร็วขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว